ลุย หรือ ถอย

*ในเมื่อแรงซื้อหุ้นเริ่มหดหาย แถมผู้เล่นแสดงอาการแทงกั๊ก “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไป ๆ มา ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,278.63 จุด ลบไป 23.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.14 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่นักเล่นต้องชิงขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงมายังแนวรับบริเวณ 1,250 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ดัชนีเคยเด้งกลับให้เห็นมาแล้วหลายครั้งนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในเมื่อแรงซื้อหุ้นเริ่มหดหาย แถมผู้เล่นแสดงอาการแทงกั๊ก “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไป ๆ มา ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,278.63 จุด ลบไป 23.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.14 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่นักเล่นต้องชิงขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงมายังแนวรับบริเวณ 1,250 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ดัชนีเคยเด้งกลับให้เห็นมาแล้วหลายครั้งนะจ๊ะ

*ขณะเดียวกันหากมองในมุมของนักลงทุนขี้กลัวเป็นที่ตั้ง “โมนิก้า” ย่อมเผื่อใจการอ่อนตัวลงเที่ยวนี้มีสิทธิ์ลงไปถึง 1,230 จุด ซึ่งเป็นจุดรับของสำคัญของการเล่นรอบสั้น ๆ แถมยังเป็นจุดที่มีความเสี่ยงในการเล่นค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้การเล่นเที่ยวนี้เป็นจังหวะของการช้อนหุ้นมากกว่าเฮโลตามกันไป และต้องไม่ลืมว่าช่วงนี้เป็นห้วงเวลาของการประกาศงบไตรมาส 1 ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับเหตุการณ์ sell on fact ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องตรียมตัวรับแรงกระแทกนะคะ

*เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าแปลกใจกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่มีลักษณะ “สามวันดี สี่วันไข้” เพราะเมื่อมองดูผลงานล่าสุดที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ บริษัทส่วนใหญ่ล้วนแสดงตัวเลขกำไรลดลงกันเป็นแถว จนนำไปสู่การขายทิ้งเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน และทำให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนอย่างหนักตั้งแต่เช้า ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดลบแบบไม่เต็มใจไงล่ะคะ

*ผนวกกับตัวแปรต่าง ๆ ที่เคยมองไว้ก่อนหน้านี้ เริ่มไม่เป็นเหมือนกับที่มีการประเมินไว้คร่าว ๆ “โมนิก้า” ถึงมีความจำเป็นต้องออกมาบอกเล่าให้แฟนคลับได้รับรู้ว่าอย่าหลงไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาด เพราะเกมหุ้นเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่ต้องใช้ความไวในการเล่นเป็นที่ตั้ง แถมได้เห็นพฤติกรรมการโยกหุ้นเล่นกันไปเรื่อย ๆ ยิ่งต้องจับทางรูปแบบการเคาะขวาให้แม่นขึ้นกว่าเดิม..ห้ามลังเลเป็นอันขาดเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AWC เริ่มเข้าสู่จังหวะรินหุ้นออกมาเรื่อย ๆ หลังจากภาวะลงทุนไม่เป็นใจ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของราคาหุ้นที่อยู่สูงเกินจริง วานนี้ถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 5.20 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175.78 ล้านบาท เดี๊ยนยังมองเป็นความเสี่ยงอยู่วันยังค่ำ เพราะเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์กับหุ้นตัวอื่นที่มี growth กลายเป็นว่าหุ้นของ “เสี่ยเจริญ” เป็นหุ้นที่เคาะสั้น ๆ ได้เท่านั้นนะคะ

*เหมือนกับการขึ้นเรื่อย ๆ จากจุดต่ำสุดที่ระดับ 6.40 บาท ของหุ้น BEM จนสุดท้ายยืนปิดที่ 9.20 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 363.54 ล้านบาท ทั้งที่ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ “เคาะขวา เคาะซ้าย” กันอย่างเมามัน “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ขาดก่อนเข้าลงทุน เพราะจังหวะของการลงทุนเที่ยวนี้เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน..บางวันขึ้นแรง บางวันลงแรง บางวันนิ่ง ๆ จำได้ไหมจ๊ะ

*ส่วนรายที่ขึ้นแรงแล้วทุบอย่าง AAV มันเป็นจังหวะที่แฟนคลับต้องเล่นเกมเร็ว เหตุผลของการขึ้นยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อย ๆ ไม่มีเรื่องปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุนสักเท่าไหร่ ? “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1.77 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 5.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122.84 ล้านบาท มันเป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปเกือบ 2 บาท ต่อจากนั้นหุ้นลงมายืนที่ 1.80 บาทไงล่ะคะ

*ส่วนหุ้นที่ขึ้นรอบใหม่อย่าง ESSO ถือเป็นช็อตที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะการกลับเข้ามาในครั้งนี้เต็มไปด้วยการเล่นแบบเก็งกำไร บวกกับแรงซื้อที่เข้ามาในช่วงหลัง ๆ ค่อนข้างหนาแน่น วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 502.53 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่าหุ้นมีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณราคา 6 บาทได้แบบสบาย ๆ ไงล่ะคะ

*STA เป็นอีกรายที่มีการไล่ราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากระดับ 11 บาท เมื่อต้นเดือนก่อน จนล่าสุดปิดเกมของวันไปที่ราคา 13.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 286.13 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอย่างใกล้ชิด เพราะการวิ่งขึ้นมาในครั้งนี้ มันมีเรื่องของสตอรี่กำไรเข้ามาเกี่ยวข้องเต็ม ๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่เดี๊ยนอยากเม้าท์ถึงมากสุดอีกตัวนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ PSTC จู่ ๆ โดนมือที่มองไม่เห็นดันหุ้นแบบไม่ทันตั้งตัว จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 0.40 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 14.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200.85 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน และเรื่องนี้คงต้องมีคำอธิบายออกมาในไม่ช้า เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองหันไปมองสตอรี่ของหุ้นเป็นจุดแรกก่อนจะไปหาคำตอบในส่วนอื่น แล้วจะเข้าใจสาเหตุการเล่นแบบโหด ๆ ของเที่ยวนี้นะจ๊ะ

Back to top button