CBG เขาควายทองคำ.!
ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังจริง ๆ สำหรับบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG หลังงบไตรมาส 1/2563 โชว์กำไรสุทธิโตเท่าตัวอยู่ที่ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาท
สำนักข่าวรัชดา
ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังจริง ๆ สำหรับบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG หลังงบไตรมาส 1/2563 โชว์กำไรสุทธิโตเท่าตัวอยู่ที่ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาท
ซึ่งเป็นตัวเลขที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้..!!
ใครที่มีหุ้น CBG ติดอยู่ในพอร์ตก็ยิ้มแก้มปริไปตาม ๆ กัน
ทำให้เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา CBG กลายร่างมาเป็นควายแดงคะนอง อีกครั้ง…
ด้วยราคาหุ้นที่วิ่งทะยานร้อนแรง ราคาพุ่งพรวดเปิดที่ 81.00 บาท ระหว่างวันมีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก ราคาวิ่งอย่างต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดของวันที่ 86.00 บาท และราคาต่ำสุดของวันที่ 81.00 บาท ก่อนมาปิดตลาดที่ 84.25 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 6.25 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 8.01% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า
ต่อเนื่องมาถึงวานนี้ (12 พ.ค.) ควายแดงคะนองก็ยังไม่หมดฤทธิ์ ราคายังคงวิ่งต่อเนื่อง แต่ลดดีกรีความร้อนแรงลง จนล่าสุดวานนี้ ราคาปิดที่ 86.25 บาท
ถ้าดูที่มาของกำไรที่พุ่งกระฉูดครั้งนี้ จะเห็นว่ามาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 20.8% อยู่ที่ 4,061 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายของบริษัท 3,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% และรายได้จากการรับจ้างผลิต 475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.5%
หากเจาะลึกลงไป ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 2,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.0% โดยเฉพาะตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำรวมกัน 1,969 ล้านบาท โดยเฉพาะที่กัมพูชาและเมียนมาทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาสนี้เลยทีเดียว
ตามมาด้วยประเทศจีนอยู่ที่ 66 ล้านบาท ที่เหลือเป็นประเทศอื่น ๆ
แต่น่าแปลกกลับไม่มีตัวเลขยอดขายที่อังกฤษซะงั้น…ทั้ง ๆ ที่ CBG อุตส่าห์ทุ่มงบก้อนโต มีถ้วยลีกคัพของอังกฤษ หรือ “คาราบาวคัพ” เชิดหน้าชูตา ช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์
แต่ยอดขายกลับไม่กระเตื้อง…สงสัยตลาดอังกฤษยังไม่สามารถปั๊มยอดขายได้อย่างที่ตั้งความหวังเอาไว้
เอ๊ะ…หรือจะเสียของไปซะแล้ว ก็ไม่รู้สินะ…(ถ้าใครอยากรู้คำตอบคงต้องต่อสายตรงถึง “เจ้าสัวเสถียร เศรษฐสิทธิ์” แล้วล่ะ)
ขณะเดียวกัน ถ้าไปดูขาของต้นทุน ถือว่า CBG สามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้ดี จากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดำเนินการผลิต รวมทั้งการสร้างโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียม และบรรจุภัณฑ์ใช้เอง เพื่อลดต้นทุน
ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 1,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 532 ล้านบาท หรือ 44.8% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 42.4% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 35.4%
แถมล่าสุด CBG ยังจับมือกับ “วู้ดดี้” – วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง รุกตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงค์ ประเดิมส่งเครื่องดื่มวิตามินซี “วู้ดดี้ ซี+ ล็อค” ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตได้ไม่มากก็น้อย
แหม๊…นี่ถ้าทำผลงานโตติดปีกทุกไตรมาสอย่างนี้ CBG ต้องเปลี่ยนจาก “เขาควายแดง” เป็น “เขาควายทองคำ” แล้วล่ะ…
นั่นอาจทำให้การวิ่งไปสู่ราคาเป้าหมายสูงสุดที่มีคนให้ไว้ 118 บาท คงไม่ไกลเกินเอื้อม…
ยังไงก็อย่าให้การ์ดตกซะก่อนละกัน…
…อิ อิ อิ…