แกว่งถี่ขึ้น

*ก่อนอื่นต้องยอมรับการแกว่งตัวของดัชนีที่เกิดขึ้นในช่วง 1,250-1,300 จุดทำให้รู้ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ช่วงของการย่ำฐานเพื่อทำให้แนวรับแน่นขึ้น ก่อนจะวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญด้านบนไปแบบชิว ๆ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้แฟนคลับตื่นตกใจแต่อย่างใด เพราะดัชนีเคยแสดงอาการดังกล่าวให้เห็นมาหลายวัน จึงมองเรื่อง “ย่อตัว” และ “เด้งขึ้น” กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วน่ะซี


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องยอมรับการแกว่งตัวของดัชนีที่เกิดขึ้นในช่วง 1,250-1,300 จุดทำให้รู้ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ช่วงของการย่ำฐานเพื่อทำให้แนวรับแน่นขึ้น ก่อนจะวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญด้านบนไปแบบชิว ๆ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้แฟนคลับตื่นตกใจแต่อย่างใด เพราะดัชนีเคยแสดงอาการดังกล่าวให้เห็นมาหลายวัน จึงมองเรื่อง “ย่อตัว” และ “เด้งขึ้น” กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วน่ะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องลงในรายละเอียดดังกล่าวมากนัก เพราะยังมีแรงรับเข้ามาช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวตลอดเวลา ส่งผลให้วานนี้ดัชนียืนปิดที่ 1,299.69 จุด บวกไป 12.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.94 หมื่นล้านบาทแบบชิว ๆ พร้อมกับแสดงความต้องการขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่สูงขึ้นกว่าเดิมตลอดเวลา มันเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตบเกียร์ 5 เดินหน้าสุดซอยไปเลยนะนายจ๋า!

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” มีความเชื่อเช่นนั้นมาจากปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่เลวร้ายไปจากที่เป็นอยู่ บวกกับหลายธุรกิจกำลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดในชีวิต จึงทำให้บรรดากองทุนพากันตะลุยซื้อแบบไม่คิดชีวิต แถมเมื่อมองไปอีก 3 เดือนข้างหน้า น่าจะเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้เชื่อว่าหุ้นหลายตัวยังมีอัพไซด์ให้วิ่งอีกบานตะไทไงล่ะคะ

*จุดประกายความหวังให้กับนักเล่นสุดๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นถ่านหิน BANPU หลังโชว์ตัวเลขกำไรออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้นักเล่นกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 14.41% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.74 พันล้านบาท น่าจะเป็นเกมที่นักเล่นไล่หุ้นกันอีกนาน เพราะแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณยามเช้ามาเยือนอีกครั้งแล้วนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของเจ้าจำปี THAI ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.70 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 10.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 484.02 ล้านบาท ก็มาจากความคาดหวังแผนฟื้นฟู น่าจะช่วยต่อลมหายใจได้อีกเฮือกใหญ่ ๆ ส่งผลให้บรรดาเซียนน้อยใหญ่กระโจนเข้ามาเล่นกับเผือกร้อนกันอย่างคึกคัก หลังเชื่อกันว่าคลังต้องเพิ่มทุนราคาสูงกว่ากระดาน! จึงเป็นช็อตที่ต้องดูกันต่อไปนะตัวเอง

*อีกรายที่ฟื้นตัวแบบงง ๆ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้นขายสาหร่ายทอดอย่าง TKN เป็นรายถัดไปในทันที เพราะการเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.90 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 12.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 661.66 ล้านบาท มันเป็นการเด้งขึ้นท่ามกลางผลงานไตรมาส 1 ออกมาเสมอตัวกับปีก่อน เดี๊ยนเลยไม่รู้ว่าตัวเองควรดีใจกับเรื่องดังกล่าวขนาดไหน ? เพราะเมื่อดูรวม ๆ ปี 63 คงได้แค่ประคองตัว แล้วราคาหุ้นจะไปต่อยาว ๆ ได้อย่างไรคะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ KCE กลายเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ไม่เข้าใจการทะยานขึ้นมาปิดที่ 17.40 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 691.59 ล้านบาท มันมาจากเหตุผลอะไรกันแน่ ? ก็ในเมื่อเจอโควิดเล่นงานจนต้องปิดโรงงานเพื่อลดผลขาดทุน แถมออเดอร์หดไปเป็นจำนวนมาก เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองไปคิดกันเอาเองว่าการเข้าเล่นคุ้มกับความเสี่ยงไหม ?

*ส่วนรายที่แบเบอร์ และนอนมาจริง ๆ “โมนิก้า” คงให้น้ำหนักไปที่หุ้น JMART หลังบริษัลูกโชว์ฟอร์มสวยกันทุกราย และตัวแม่ได้พาร์ตเนอร์ใหม่เข้ามาต่อยอดธุรกิจ ก็ฟันธงได้ทันทีว่างบไตรมาส 1 สวยแน่นอน และเมื่อมองไปถึงไตรมาส 2 ที่จะบุ๊กกำไรจากขายหุ้นบริษัทลูกเข้ามาอีก แวลูของหุ้นย่อมวิ่งขึ้นไปแถว ๆ 12 บาทอย่างแน่นอน ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 8.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 555.17 ล้านบาท มันน่าสนใจจริงไหม ?..ลองถามใจเธอดูนะจ๊ะ

*สำหรับหุ้นลูกที่เต็งจ๋ามาแต่ไกลในปีนี้ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น SINGER เพื่อชี้ให้เห็นพัฒนาการของธุรกิจมาไกลมาก ๆ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากนโยบายล้างบ้านเพื่อขจัดของเสียให้หมดไป บวกกับการเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการทำงานให้ราบรื่นขึ้นทุกขั้นตอน ตัวเลขกำไรถึงโตระเบิดระเบ้อตั้งแต่ไตรมาส 1 และน่าจะเติบโตแบบนี้ได้ทุกไตรมาส เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยดูการขึ้นมาปิดที่ 6.80 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 14.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 68.35 ล้านบาท มันเป็นจังหวะไหลตามน้ำอ๊ะป่าว ?

Back to top button