ฟื้น..ไม่ฟื้น!
*หากประเมินด้วยสายตา นักเล่นจะรู้ได้ทันทีว่าตลาดหุ้นถึงเวลาสร้างฐานเพื่อดันตัวเองขึ้นไปพลิกแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,300 จุด ให้กลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการเคาะขวาในไม้ถัดไป “โมนิก้า” ถึงต้องลุ้นให้ดัชนียืนหยัดในแดนบวกเล็ก ๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยให้ดัชนีเทคตัวผ่านจุดสำคัญไปอย่างง่ายดายไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากประเมินด้วยสายตา นักเล่นจะรู้ได้ทันทีว่าตลาดหุ้นถึงเวลาสร้างฐานเพื่อดันตัวเองขึ้นไปพลิกแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,300 จุด ให้กลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการเคาะขวาในไม้ถัดไป “โมนิก้า” ถึงต้องลุ้นให้ดัชนียืนหยัดในแดนบวกเล็ก ๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยให้ดัชนีเทคตัวผ่านจุดสำคัญไปอย่างง่ายดายไงล่ะคะ
*น่าเสียดายที่โลกของความเป็นจริงเป็นอะไรที่โหดร้ายกว่าที่คาดคิดไว้มาก “โมนิก้า” ถึงต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเป็นประจำ เพราะเมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันมีเรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าหลายเรื่องด้วยกัน จึงต้องสำรวจรูปแบบการลงทุนในเที่ยวนี้ว่าเข้ากับบรรยากาศการลงทุนขนาดไหน ? เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ถูกจังหวะเจ้าค่ะ
*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งไปมา พร้อมกับทำท่าทะยานขึ้นแรง ๆ สุดท้ายยืนปิดได้แค่ระดับ 1,286.53 จุด บวกไป 5.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.59 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าสถานการณ์ยังไม่นิ่งอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้ความผันผวนยังดำเนินต่อไป ยกเว้นวันนี้มีแรงซื้อเข้ามาประคองเป็นจำนวนมาก โพซิชั่นของตลาดหุ้นก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในทันทีนะจะบอกให้
*คล้ายกับความ “ชุลมุน ชุลเก” ของเจ้าจำปี THAI ล้วนมาจากมือที่มองไม่เห็นชักใยอยู่เบื้องหลัง ส่งผลให้การผ่าซากการบินไทยไปไม่สุดซอยสักที เพราะทุกสเต็ปมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะแยะไปหมด และบางครั้งก็นำไปสู่การทับซ้อนแบบไม่มีความจำเป็น “โมนิก้า” เลยถือโอกาสหยิบเรื่องเล่าคนในวงการมาเม้าท์มอยกันสักหน่อย เพราะเรื่องนี้กำลังเดินมาถึงจุดไคลแม็กซ์แล้วน่ะซี
*โดยเรื่องนี้เขานินทากันสนุกสนานว่าคนที่ต้องบากหน้ารับศึกหนักในคราวนี้เป็น “อ.ต.ม” เพราะเป็นเจ้าภาพในการเดินเรื่อง “เพิ่มทุน” บวกกับ “กู้เงิน” ซึ่งเป็นแผนการฟื้นฟูที่ไม่เอาอ่าวอะไรเลย แถมไม่ช่วยให้เจ้าจำปีหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นในหลายทศวรรษ เลยเจอเสียงคัดค้านจากผู้หวังดีเป็นจำนวนมาก เพราะขืนปล่อยให้แผนดังกล่าวเดินหน้าได้จริง ๆ ก็เหมือนการละลายเงินทิ้งในแม่น้ำนะจะบอกให้
*สำหรับสาเหตุที่ทำให้คนใหญ่ในกระทรวงการคลังกล้าลุยไฟ ก็มาจากการตอบแทนบุญคุณ “เฮีย ก.” ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่ช่วยผลักดันจนขึ้นเป็นหนึ่งในแม่ทัพของพรรคทหาร พปชร. และเรื่องนี้ก็มีการย้อนความไปถึงสมัยที่ส่ง “เฮียถั่ว” เข้ามาเป็นด่านหน้าในการสางปัญหาเจ้าจำปี ก็มาจากการได้รับไฟเขียวจากเฮียคนดังกล่าวที่ถนัดออกงานตัดริบบิ้นลูกเดียวนะจ๊ะ
*วันนี้จึงเหมือนเป็นการปะทะกันระหว่างคนของ “ภูมิใจไทย” กับคนของ “พปชร.” ซึ่งกองเชียร์ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปที่ค่าย “สีน้ำเงิน” มากกว่า “สีเขียว” เพราะเป็นการตัดจบปัญหาที่หมักหมมกันมานาน (คลังไม่ต้องแบกภาระอีกต่อไป) จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าแนวทางการผ่าองค์กรจะสำเร็จหรือไม่ ? และเจ้าจำปีจะมีโอกาสฟื้นตัวไหม ? “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเกลือกกลั้วกับเรื่องนี้มากนัก (เปลืองตัว) แถมสิ่งที่พวกอีแอบเม้าท์กันว่า ยุคนั้นทำได้ดี..ยุคนี้ทำได้ดี มันไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบบูรณการเลยสักรัฐบาล..จำใส่กะลาหัวไว้ด้วยจ้า!
*เม้าท์ถึงเรื่องฉาวเยอะแล้ว “โมนิก้า” ขอเปิดพื้นที่ให้กับหุ้นเด่นตัวอื่นบ้างดีกว่า และเที่ยวนี้ก็เป็นคิวของหุ้นไฟแรง RBF อย่างแท้ทรู หลังกำไรในไตรมาส 1 โตเกือบ 70% จนทำให้นักวิเคราะห์พากันปรับเป้าเพิ่มกันยกใหญ่ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับจับตามองราคาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.71 บาท หรือขึ้นไป 14.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 369.19 ล้านบาท ยังเป็นจุดที่น่าเล่นป่าว ?
*เช่นเดียวกับในรายของเล็กพริกขี้หนู ALL ยังทำผลงานไตรมาส 1 ได้อย่างยอดเยี่ยมแบบนี้ บรรดานักเล่นเลยกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นปิดที่ระดับ 3.20 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 159.51 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อบวกกับราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้นด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น จึงน่าจะเป็นช็อตตามไปดูสำหรับคนที่ชอบหุ้นต่ำสิบนะตัวเอง