Work From Home ดีเกินคาด

พลวัตปี 2020 : ฐปนี แก้วแดง (แทน)

ตอนที่หลายบริษัทเริ่มมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ (Work From Home) มีความวิตกกันว่า ประสิทธิภาพในการทำงานอาจจะลดลง แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณสองเดือน ผลปรากฏว่า ประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity) ของบริษัทในสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

จากการวิเคราะห์ข้อมูล 100 ล้านจุดจากบริษัทอเมริกัน 30,000 บริษัทของ “โปรโดสกอร์” ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบสถานที่ทำงาน คนงานอเมริกันมีประสิทธิภาพในการทำงานในเดือนมีนาคม และเมษายนมากกว่าสองเดือนนี้ในปีก่อนหน้า 47% แม้ว่าทำงานผ่านแอปพลิเคชัน แชท อีเมล และ เครื่องมือทำธุรกิจบนคลาวด์

หลังจากที่ทวิตเตอร์ได้นำร่อง อนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้านได้ตลอดไปหากต้องการ ในขณะนี้ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า พนักงานจำนวนมากจะไม่กลับไปทำงานในสำนักงานอีก และอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

ทวิตเตอร์ได้เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า พนักงานส่วนใหญ่ได้เลือกที่จะไม่กลับไปทำงานในสำนักงานอีก ในขณะที่เฟซบุ๊ก อัลฟาเบต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เซลส์ฟอร์ซดอทคอม อิงซ์ และสแลก เทคโนโลยีส์ อิงซ์ คาดการณ์ว่า พนักงานจะไม่กลับไปทำงานในสำนักงานจนกว่าจะถึงปี 2564

นี่อาจจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ในขณะนี้มีบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่างน้อย 6 บริษัทในสหรัฐฯ กำลังพิจารณาย้ายคนงานจำนวนมากไปมีสถานะ Work-From-Home เป็นการถาวร

ไม่เพียงแต่บริษัทจะยอมให้พนักงานส่วนใหญ่ทำงานจากบ้านเท่านั้น หลายบริษัทกำลังจะลดการเดินทางและการเข้าร่วมประชุม  ว่าจ้างผู้ที่มีความสามารถจากทุกส่วนของประเทศ ลดพื้นที่สำนักงาน การดำเนินการเช่นนี้ได้ส่งผลกระทบทางการเงินต่อเมืองต่าง ๆ ที่มีบริษัทเทคโนโลยีเป็นกลไกหลักทางเศรษฐกิจอย่างเช่น ซานฟรานซิสโก และซีแอตเทิล และน่าจะทำให้การใช้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และการขนส่งสาธารณะลดลง  ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงภัตตาคาร บาร์ และแหล่งนัดหมายอื่น ๆไปด้วย

นอกจากนี้ จะมีปัญหาอื่นตามมาคือ พนักงานจำนวนมากจะรู้สึกเครียดและรู้สึกว่าถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น มีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของงานแม้ว่าพวกเขาได้เข้าสู่การทำงานจากบ้านแล้วก็ตาม

แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจจากการจัดกำลังแรงงานใหม่นี้ ก็อาจช่วยประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานได้หลายพันล้านดอลลาร์ ลดการจราจร และภาระที่เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของพนักงานและได้รับประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากกำลังแรงงานที่กิน นอน และอาศัยอยู่ในสำนักงาน

บางบริษัทเผยว่า พนักงานขายสามารถพบลูกค้าผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้วันละ 5-8 คน จากที่ต้องใช้เวลาสามวันจึงจะพบลูกค้าได้ขนาดนั้นเพราะต้องเดินทาง

เหตุผลหลักที่ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นคือ คนมีอย่างอื่นให้ทำน้อยลงในช่วงที่มีคำสั่งให้อยู่กับบ้านและรู้สึกกดดันที่จะสร้างประสิทธิภาพเพื่อรักษาตำแหน่งงานของตนเองเอาไว้ แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นคือ พนักงานจะทำงานในชั่วโมงที่นานขึ้นและรู้สึกว่า ต้องพร้อมให้บริการเมื่อถูกเรียกหา

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าทุกบริษัทจะทำตามทวิตเตอร์ บางบริษัทเช่น แอปเปิล อิงค์ อินวิเดีย และอเมซอน ได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆให้พนักงาน และพนักงานจำนวนหนึ่งก็ต้องการกลับไปทำงาน โดยบางคนกำลังเข้าขั้นวิกลจริตเนื่องจากถูกขังในอพาร์ตเมนต์คนเดียว หรือทำงานท่ามกลางลูก ๆ

ไม่ว่าบริษัทจะเลือกแบบไหน ผู้บริหารทุกคนเห็นพ้องกันว่า หลังเสร็จศึกโควิด-19 ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม พนักงานจำนวนหนึ่งอาจจะเลือกทำงานจากบ้าน ในขณะที่บางคนอาจเลือกที่จะทำงานในออฟฟิศ และบางคนอาจจะเลือกทั้งสองแบบ เชื่อว่าในขณะนี้หลายบริษัทและพนักงานจำนวนมาก คงกำลังครุ่นคิดไม่ตกว่าจะเอาไงดี