เชื่อมั่นเกินร้อย

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*แรงซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในเที่ยวนี้ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์รอบโลกกำลังจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บรรดาผู้เล่นถึงโหมซื้อหุ้นแบบไม่หยุดหย่อน จนดัชนีประคองตัวปิดที่ระดับ 1,320.69 จุด ลบไป 1.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.02 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้ดัชนียืนในเขตซื้อมากเกินไปอีกครั้ง เดี๊ยนมองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเผื่อใจกับสิ่งที่ไม่คาดฝันให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วจริง ๆ นะคะ

*เนื่องจากรูปแบบการไล่หุ้นเกิดจากข่าวรายวันที่กระตุ้นให้นักเล่นฮึกเหิมแบบสุดขีด ผนวกกับนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ เริ่มสลับมือเข้ามาเป็นผู้ซื้อหลัก จึงทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบเหนือความคาดหมาย ผนวกกับมีการโปรยยาหอมออกมาไม่หยุดหย่อน “โมนิก้า” เลยมองการค้นพบวัคซีนป้องกันไวรัสมรณะ และการอัดฉีดเงินเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้นักเล่นมีความเชื่อมั่นเกินร้อยนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวถูกสำทับด้วยราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากกำลังซื้อทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง จึงกลายเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์หลายอย่างออกมา “โทนบวก” มากกว่า “โทนลบ” แต่สุดท้ายก็คงฝืนธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี “โมนิก้า” เลยต้องกลายเป็นกองเชียร์ข้างเวทีไปโดยปริยาย เพราะไม่สามารถออกตัวคัดค้านได้มากกว่านี้อีกแล้วไงล่ะคะ

*เหมือนการ “วิ่งขึ้น วิ่งลง” ของหุ้นสายแนวอย่าง BAM ถูกปั่นกระแสจนติดชาร์ต most value บ่อยครั้ง ก็มาจากความคาดหวังที่มีต่ออนาคตอันสดใส แรงซื้อจากพวกกองทุนเลยอัดแน่นเข้ามาไม่ขาดสาย จนหุ้นขึ้นมาทดสอบยอดเดิมบริเวณ 25 บาทเป็นครั้งที่ 3 แต่ก็ผ่านไปไม่ได้อยู่ดี หุ้นเลยย่อตัวลงมาปิดที่ 23.40 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.18 พันล้านบาท เดี๊ยนเลยเชื่อว่าหุ้นจะลงไปปักหลัก 22 บาทอีกรอบเจ้าค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ STA อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ทะยานขึ้นแบบไม่เหลียวหลังให้เสียเวลา จนล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 20.90 บาท บวกไป 2.30 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.56 พันล้านบาท พร้อมกับทำให้แมงลือมีความมั่นใจเกินร้อยว่าฐานใหม่บริเวณราคา 20 บาทจะช่วยหนุนให้หุ้นเดินหน้าขึ้นไปทำ new high ได้ง่ายขึ้น เพราะสตอรี่กำไรเที่ยวนี้มาแบบจัดเต็มน่ะซี

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องโยงกลับไปถึงหุ้น TRUE เพื่อชี้ให้เห็นความคาดหวังของพวกกองทุนมันมากเสียจริง ๆ เลยทำให้หุ้นที่มีผลขาดทุนตัวแดงโร่ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับห้อตะบึงขึ้นมาปิดที่ 3.72 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.38 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเสี่ยงตายไม่ควรพลาดช็อตสำคัญต่อจากนี้นะจ๊ะ

*สถานการณ์ข้างต้นทำให้หุ้นขุดเจาะน้ำมันอย่าง PTTEP กลายเป็นช็อตเด็ดที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะการที่หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 89 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.60 พันล้านบาท โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันน่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปบุ๊กแวลูที่บริเวณ 95 บาทได้ไม่ยากเย็นนัก..คุณ ๆ ว่าทฤษฎีนี้น่าเชื่อไหมล่ะคะ

*ในเมื่อเข้าสู่โลกของหลักการทั้งที “โมนิก้า” เลยขอมองอะไรที่เป็นรูปธรรมกันบ้าง (เบื่อพวกปากมอม อิจฉาตาร้อน เก่งสู้เขาไม่ได้ เลยเล่นสงครามใต้ดิน) เพื่อทำให้เห็นโอกาสของหุ้น MTC มีมากขนาดไหน ? เพราะการที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 56.75 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท มันสะท้อนความไว้ใจของกองทุนที่มีต่อหุ้นตัวนี้เยอะจริง ๆ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินหุ้นมีโอกาสกลับขึ้นไปหาฐานเดิม 60 บาทมากแค่ไหน ?

*เช่นเดียวกับน้องใหม่หน้ามน RBF กลายเป็นหุ้นที่กองทุนเม้าท์ถึงถี่เหลือเกิน และเหตุผลที่ทำให้ทุกคนกรูเข้ามาเล่นเกิดจากกำไรโต จนมีการประเมินคร่าว ๆ กันว่ากำไรต่อหุ้นทั้งปีน่าจะใกล้เคียง 0.30 บาท “โมนิก้า” เลยอยากให้แฟนคลับใส่สมการกันเอาเองว่า หุ้นตัวนี้ควรเทรดบนค่าพี/อีเท่าไหร่ ? เพื่อช่วยประเมินราคาปิดที่ 6.30 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 483 ล้านบาท ควรได้ไปต่อไหม ?..อิอิอิ

*คล้ายกับกรณีของหุ้นขายแก๊ส SGP ทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.30 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99.50 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่พวกขาประจำกลับเข้ามาเคาะขวาอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นจับตาดูให้ดีเป็นพิเศษว่าเที่ยวนี้จะเล่นยาวไหม ? หลังผลงานไตรมาส 1 โตระเบิดระเบ้อ เลยทำให้เชื่อว่าไตรมาส 2 น่าจะมีอะไรดี ๆ ออกมาโชว์บ้างแหละ!