หุ้นโรงพยาบาล ผลงาน Q1/63 ชะลอตัว!
เมื่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลประกาศงบไตรมาสแรก ก็สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าได้รับผลกระทบจริง จากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19
เส้นทางนักลงทุน
เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ผลดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวดเพื่อรับมือและควบคุมการระบาดของโรค การประกาศงดการเดินทางเข้าออกนอก-ในประเทศ การเว้นระยะห่างทางสังคม การปิดกิจการบริการบางประเภท และการให้ประชาชนทำงานและอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เป็นต้น
มาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนการติดโรค COVID-19 ลดลง แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างฉับพลันได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยรวม และสร้างแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลอีกด้วย เนื่องจากจำนวนผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลลดลงเมื่อเทียบกับที่ผ่านมาจากผลของสถานการณ์ดังกล่าว
ผลลัพธ์ คือจะเห็นได้ว่า เมื่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลประกาศงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ก็สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจริง ๆ เพราะหากแยกดูรายละเอียดส่วนของกำไรสุทธิจะเห็นได้ว่า 22 บริษัท มีบริษัทที่ยังคงมีกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9 บริษัท ได้แก่ THG, CMR, VIBHA, VIH, LPH, KDH, BCH, CHG และ SKR ขณะที่มี 1 บริษัทพลิกมีกำไรสุทธิ ได้แก่ WPH
ส่วนอีก 11 บริษัท กลับทำกำไรสุทธิลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ NEW, RPH, M-CHAI, SVH, NTV, BH, AHC, RJH, PR9, BDMS และ EKH และมี 1 บริษัทยังขาดทุนสุทธิต่อ ได้แก่ PRINC
สำหรับรายละเอียดตัวเลขผลการดำเนินงานดูจากตารางประกอบ
ด้วยข้อมูลดังกล่าวจะยกตัวอย่างหุ้นพอสังเขปว่าผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น-ลดลง อย่างไรบ้าง
อาทิเช่นหุ้นที่ผลการดำเนินปรับตัวขึ้นก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เช่น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 สามารถทำกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 82.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 898.87% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8.26 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากบริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นในกิจการร่วมค้า
บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ CMR รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 สามารถทำกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 98.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 882.02% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10.08 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาลของบริษัทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 1/2562 มีการบันทึกลดรายได้จากการรักษาพยาบาลของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะถูกเรียกเงินค่าบริการทางการแพทย์คืนจากสำนักงานประกันสังคม จึงทำให้รายได้ค่ารักษาพยาบาล ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2562
บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 พลิกมีกำไรอยู่ที่ 1.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 5.01 ล้านบาท มีสาเหตุหลักจากรายได้ที่ปรับสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ป่วยนอกและกลุ่มผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากตัวอย่างหุ้นโรงพยาบาลที่สามารถทำกำไรสุทธิแข็งแกร่งมักเป็นเพียงรายการพิเศษเข้ามา แต่หากดูส่วนของรายได้หลักจากค่ารักษาพยาบาลกลับมีรายได้ลดลง โดยมีผู้ป่วยเข้าใช้บริการลดลงเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 มากระทบ ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนักจริงพร้อมกับผู้ป่วยหมอนัดจะเลี่ยงไปรับการรักษาก่อน
ด้านหุ้นที่ผลการดำเนินงานลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เช่น บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรลดลงเหลือ 11.25 ล้านบาท ลดลง 74.82% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.70 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้ลดลงมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเข้าใช้บริการทั้งในส่วนของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก อีก