ฝรั่งเริ่มเก็บหุ้น ?
*ในเมื่อตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการเล่นเกมความหวังเป็นตัวนำในการซื้อหุ้น “โมนิก้า” ก็มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงรูปแบบของนักเล่นแต่ละกลุ่มล้วนมีผลต่อการขึ้นของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงต้องเอ่ยถึงท่าทีของฝรั่งหัวทองเป็นลำดับแรก เพราะการกลับเข้ามาซื้อหุ้นจริงจังในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เสมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกคนได้รู้ว่าดัชนีพร้อมจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,400 จุดแล้วนะคุณพี่!
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในเมื่อตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการเล่นเกมความหวังเป็นตัวนำในการซื้อหุ้น “โมนิก้า” ก็มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงรูปแบบของนักเล่นแต่ละกลุ่มล้วนมีผลต่อการขึ้นของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงต้องเอ่ยถึงท่าทีของฝรั่งหัวทองเป็นลำดับแรก เพราะการกลับเข้ามาซื้อหุ้นจริงจังในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เสมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกคนได้รู้ว่าดัชนีพร้อมจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,400 จุดแล้วนะคุณพี่!
*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะยอดซื้อที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. จำนวนสูงถึง 5.50 พันล้านบาท ตามติดด้วยวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. เก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปอีก 1.39 พันล้านบาท ก่อนจะเก็บเพิ่มในวันอังคารที่ 2 มิ.ย. อีกเป็นจำนวน 2.08 พันล้านบาท มันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมานานพอสมควร “โมนิก้า” ถึงมองแรงซื้อที่กลับเข้ามาในเที่ยวนี้ น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง เพราะปฏิบัติการณ์แตะมือเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้เกิดขึ้นแล้วพะยะค่ะ
*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันกลับมามองหุ้นกลุ่มบลูชิพอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเป้าหมายในการเก็บหุ้นเข้าพอร์ตรอบใหม่ ผสานกับผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ เชื่อกันว่าเศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนจากภายในเป็นหลัก หลังรัฐบาลผ่านพ.ร.ก.เงินกู้ 1.90 ล้านบาท เดี๊ยนถึงมองภาพของการเล่นเที่ยวนี้เป็นจังหวะไล่หุ้นรอข่าวจริงปรากฏ จึงอยากให้แฟนคลับเกาะติดเรื่องนี้ไว้นิดหน่อย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือประเมินเหตุการณ์ต่อจากนี้เจ้าค่ะ
*ขนาดเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่าผลงานของเสือนอนกินอย่างหุ้น AOT ไม่เข้าเป้าอย่างแน่นอน แต่นักเล่นยังกระโจนเข้ามาไล่ราคาแบบสุดลิ่มเป็นบางจังหวะ มันกลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” มองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้น่าจะมีอะไรดีมาบิลต์กำลังใจอย่างแน่นอน ราคาหุ้นถึงยืนปิดที่ 63.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.03 พันล้านบาทแบบชิว ๆ นะคะ
*เรื่องนี้เหมือนกับการพลิกลบมาบวกของหุ้นบัตรเครดิต KTC กลายเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” มองหุ้นในโทนบวกนำโด่งมาแต่ไกล โดยเฉพาะประเด็นการลงไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 35 บาท น่าจะทำให้หุ้นตัวเบาขึ้นเยอะ ขณะเดียวกันก็เป็นการทดสอบแรงขายไปในตัวเสร็จสรรพ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 37.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.48 พันล้านบาท น่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อทะยานต่อกระมัง!
*ส่วนรายที่กระชากขึ้นรับข่าวอย่างช้า ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นโรงกลั่นน้ำมัน TOP เป็นรายถัดมาในทันที เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 46.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท มันเป็นการขึ้นต่อเนื่องวันที่สอง ผนวกกับเส้นแนวต้านถัดไปอยู่แถว 53 บาท จึงน่าจะเป็นช็อตที่หุ้นวิ่งขึ้นไปแบบสบาย ๆ เพื่อรับข่าวราคาน้ำมันดิบถีบตัวสูงขึ้นนะจ๊ะ
*ไหน ๆ ก็มองหุ้นที่วิ่งรับข่าวดีขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันมองหุ้นที่แมงลือเม้าท์กันว่า “ทีเด็ด” อย่าง PTTGC กันสักหน่อย และเหตุผลที่สนับสนุนความเชื่อดังกล่าวก็มาจากเหตุผลเดียวกับรายข้างต้น เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองราคาปิดที่ 46.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท เทียบกับบุ๊กแวลูของหุ้นที่ระดับ 61 บาท มันน่าจัดสักดอกสองดอกไหมเจ้าคะ
*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงคุณน้องคนงามแห่ง WHA ขึ้นมาในทันที เพราะเที่ยวนี้ต้องมีหุ้นนิคมอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเต็ม ๆ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 3.20 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 613 ล้านบาท น่าจะเป็นเกมรอบใหม่ของหุ้นรายนี้ เพราะเมื่อดูทรวดทรงองค์เอวของหุ้นนาทีนี้ ช่างเหมาะต่อการเก็บเข้าพอร์ตมาเหลือเกินนะจะบอกให้
*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น QH เริ่มมีแรงซื้อไหลเข้ามาอีกรอบ จนทำให้เชื่อว่าหุ้นน่าจะไปต่อสวย ๆ เพราะมองเห็นมาแต่ไกลว่าแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 2.40 บาท “โมนิก้า” เลยอยากให้แฟนคลับมองราคาปิดที่ 2.26 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 245 ล้านบาท น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย..จริงหรือไม่ ลองถามใจเธอดูนะคะ