ILM เพิ่มการผลิตสู่การเติบโต
ต่อจากนี้ไปอาจเห็นจุดเปลี่ยนของ ILM หลังบริษัทเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถด้านการผลิตเพื่อพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
คุณค่าบริษัท
ต่อจากนี้ไปอาจเห็นจุดเปลี่ยน บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ว่าจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะยอดการผลิตเฟอร์นิเจอร์
หลังจากบริษัทเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถด้านการผลิตเพื่อพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะในปี 2561-2562 ที่ผ่านมา ได้มีการติดตั้งเครื่องจักรพร้อมด้วยระบบซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยจาก HOMAG GROUP ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีสำหรับเครื่องจักรงานไม้ และระบบซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก จากเยอรมนีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงงานของบริษัทนั่นเอง
เพื่อครอบคลุมทุกกระบวนการผลิต อาทิ ระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการงานผลิตทั้งระบบตั้งแต่งานออกแบบ ควบคุม วางแผนต่าง ๆ, การติดตั้งหุ่นยนต์ (Robot) สำหรับจัดเก็บไม้แบบ Customize order, เครื่องตัดไม้ที่ใช้ระบบ Fully Barcode System ระบบอัตโนมัติในขั้นตอนการปิดบาร์โค้ดของไม้ทุกแผ่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ MES Controller ส่งข้อมูลตามคำสั่งว่าไม้แผ่นนี้จะตัด ขนาดเท่าไหร่, ปิดขอบสีอะไร เจาะรูแบบไหน เป็นต้น
ก่อนลำเลียงต่อไปที่เครื่องตัดไม้, เครื่องปิดขอบ Tandem Line โดยสามารถเลือกปิดแถบได้หลากหลายสี โดยไม่ต้องหยุดเครื่องจักรในการเปลี่ยนขอบ และเครื่องเจาะ ที่เป็นระบบ Top High Speed ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทติดตั้งเครื่องจักรและระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าว สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตที่รวดเร็วขึ้น 3-4 เท่าต่อ 1 กะ โดยไม่ต้องหยุดพัก เพื่อปรับไลน์การผลิต อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำ ลดต้นทุนประหยัดเวลา และได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพระดับสากล
การพัฒนาวิธีการผลิตให้มีประสิทธิและทันสมัยมากขึ้นนั้น ก่อให้เกิดยอดขายจะเพิ่มขึ้นได้ในช่วงไตรมาสถัดไป หลังจากช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,226.96 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,445.87 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัททำกำไรได้เพียง 118.18 ล้านบาท หรือ 0.23 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 131.86 ล้านบาท หรือ 0.33 บาทต่อหุ้น
เป็นผลจากยอดขายลดลงเนื่องจากการปิดสาขาส่วนใหญ่ของ Index Living Mall ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของหน่วยงานภาครัฐ และการถือปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS 16 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 6.3 ล้านบาท จากการบันทึกค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นเชื่อว่าหากทุกสาขากลับมาดำเนินกิจการได้ตามปกติยอดขายจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งอย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญเมื่อดูค่า P/E อยู่ที่ระดับ 9.88 เท่า ถือว่ายังไม่แพง อีกทั้งเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 10.07 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 15.10 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานอยู่ที่ระดับ 11.70 บาท นั่นแปลว่า ราคาหุ้นในกระดานอยู่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- บริษัท ครอบครัวธรรมดาพาณิชย์ จำกัด 203,310,000 หุ้น 40.26%
- นายเอกฤทธิ์ ปัทมสัตยาสนธิ 34,289,320 หุ้น 6.79%
- น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ 33,989,320 หุ้น 6.73%
- นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ 33,639,320 หุ้น 6.66%
- น.ส.พิชพิมพ์ ปัทมสัตยาสนธิ 33,639,320 หุ้น 6.66%
รายชื่อกรรมการ
- นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ประธานกรรมการ
- นายพิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
- น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- นางขันทอง อุดมมหันติสุข กรรมการ
- น.ส.พิชพิมพ์ ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการ