พาราสาวะถี

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ดีขึ้นตามลำดับ ดีขึ้นขนาดไหนก็ถึงจุดที่ว่าทีมโฆษกศบค.จะยุติการแถลงข่าวในวันเสาร์และอาทิตย์กันแล้ว โดยที่ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยไม่พบติดต่อกันมาเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว ที่เห็นเป็นสถิติรายวันคือตัวเลขของคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ นั่นหมายความว่า ถ้ามีการผ่อนปรนในระยะที่ 4 แล้ว กิจการ กิจกรรมต่าง ๆในประเทศก็แทบจะเป็นปกติ


อรชุน

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ดีขึ้นตามลำดับ ดีขึ้นขนาดไหนก็ถึงจุดที่ว่าทีมโฆษกศบค.จะยุติการแถลงข่าวในวันเสาร์และอาทิตย์กันแล้ว โดยที่ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยไม่พบติดต่อกันมาเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว ที่เห็นเป็นสถิติรายวันคือตัวเลขของคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ นั่นหมายความว่า ถ้ามีการผ่อนปรนในระยะที่ 4 แล้ว กิจการ กิจกรรมต่าง ๆในประเทศก็แทบจะเป็นปกติ

แต่สิ่งที่รัฐบาลจะปล่อยผ่านไม่ได้คือ การประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้คนไทยอย่าการ์ดตก เนื่องจากเวลานี้เริ่มเห็นกันแล้วว่า คนเริ่มไม่สวมหน้ากากอนามัยกันเยอะขึ้น การเว้นระยะห่างทางสังคมก็เข้าข่ายปล่อยปละละเลย การเช็กอินเช็กเอาท์ตามร้านรวงต่าง ๆ ก็เริ่มหละหลวม ปล่อยผ่านก็แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ น่าห่วงเป็นอย่างยิ่งว่าการระบาดในระลอกที่ 2 มีโอกาสที่จะเกิดขึ้น และหากกลับมาอีกหนสถานการณ์มันจะเลวร้าย ย่ำแย่กว่าคราวสนามมวยลุมพินีและสถานบันเทิงหลายเท่าตัว

ไม่รู้ว่า คนที่การ์ดตกนั้นคิดกันยังไง เห็นตัวเลขที่แถลงกันรายวันแล้วทำให้สบายใจอย่างนั้นหรือ นี่คือสิ่งที่ท่านผู้นำและคณะที่ดูแลเรื่องนี้จะต้องเร่งประเมินและตอกย้ำให้ทุกภาคส่วนการ์ดอย่าตก ต้องไม่ลืมเป็นอันขาดว่า แม้การแพร่เชื้อในประเทศจะไม่มี แต่รายล้อมรอบโลกสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ยังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อกันหลักหมื่นหลักแสน ต้องเน้นกันว่าตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนและยารักษาโดยตรง ทุกคนต้องไม่ตั้งตัวอยู่ในความประมาท

ส่วนเรื่องการใช้กฎหมายอย่างพ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว มันไม่ได้ก่อประโยชน์ใด ๆ นอกเหนือจากการรวบอำนาจ สั่งการและให้ได้ดั่งใจผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเท่านั้น เพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้นในการควบคุมโควิด-19 ในประเทศไทย จุดหลักอยู่ที่กระบวนการทางการแพทย์และสาธารณสุข และความร่วมมืออย่างดียิ่งของคนไทยทุกคน ดังนั้น จึงไม่มีเหตุที่จะมายึกยักยึดยื้อเรื่องการเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองหากจะห่วงก็คงเป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจกันของลิ่วล้อท่านผู้นำมากกว่า

หลังจากที่กรรมการบริหารพรรคสืบทอดอำนาจจับมือกันไขก๊อก 18 คน เพื่อทำให้ อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กระเด็นตกเก้าอี้ไปแล้ว และหวังบีบให้เกิดการประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่กันโดยเร็ว ภายใต้กรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดว่าต้องไม่เกิน 45 วัน ดูท่าว่าฝ่ายที่ถูกกระทำจะเล่นเกมเอาคืนด้วยกันโดยการดึงจังหวะการเรียกประชุมให้ยาวออกไป ซึ่งอาจจะนานจนใกล้ครบเวลาที่กฎหมายกำหนด

เมื่อเป็นเช่นนั้น ฝ่ายหนุน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นหัวหน้าพรรค จึงจะเดินเกมกันอีกกระทอกด้วยการเข้าชื่อเพื่อเร่งให้มีการประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่กันโดยเร็ว ด้วยเหตุที่เกิดแรงกระเพื่อมเช่นนี้ ถึงท่านผู้นำจะปฏิเสธเรื่องความเกี่ยวข้องกันและแยกให้ชัดระหว่างปัญหาภายในพรรคการเมืองกับเรื่องของรัฐบาล แต่การขยับโขยกไล่กันทุกวันเช่นนี้ มันย่อมมีผลสะเทือนไปทุกองคาพยพในขบวนการสืบทอดอำนาจ

สิ่งที่ตรึงให้ 3 กุมารที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีภายใต้การกุมบังเหียนของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังคงไม่แสดงออกในลักษณะมึงมาพาโวยคงความเชื่อมั่นที่ท่านผู้นำมอบให้มาตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมากว่า 6 ปี แต่ความเคลื่อนไหวหนนี้คงยากที่จะทานทนกันไหว เห็นข้อความบนเฟซบุ๊กของ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่พูดถึงลาภ ยศ สรรเสริญและความสุขแล้ว ก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่า นี่เป็นอาการปลง

ส่วนจะปลงแบบยอมรับสภาพรอวันปรับเปลี่ยนโดยเริ่มจากภายในพรรคสืบทอดอำนาจก่อน แล้วค่อยไหลลามมาถึงการถูกเขี่ยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี หรือจะเป็นการชิงตัดหน้าลาออกจากความเป็นเสนาบดี เพื่อเปิดทางให้ท่านผู้นำได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงภายในฝ่ายบริหาร จากนั้นก็เข้าไปสะสางเรื่องค้างคาที่เกิดขึ้นภายในพรรค แน่นอนว่า ตามทางข่าวที่รู้กันหาก 3 กุมารไขก๊อก เฮียกวงในฐานะลูกพี่ใหญ่ก็คงไม่อยู่ และนั่นก็จะเป็นจังหวะเวลาที่เจ้าตัวจะได้หนีอาการ เบื่อ” ที่บ่นไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในแนวทางนี้อยู่ที่ว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะเซย์เยสด้วยหรือไม่ ประสาคนที่ไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง (ฮา) แต่งานนี้การที่พี่ใหญ่เดินเกมรุกถึงขนาดนี้ น้องเล็กคงจะปฏิเสธได้ยาก การที่จะแบกรับกันไว้มีแต่จะหลังหักมากกว่า อยู่ที่ว่าหากปล่อยทีมงานสี่กุมารพร้อมเฮียกวงไปแล้ว มีกลุ่มเทคโนแครตชุดใหม่ พร้อมที่จะเข้ามาเป็นหนูทดลองยากอบกู้สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสนี้หรือไม่

ไม่ใช่แค่การเข้ามาแล้วต้องเกิดการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในทันทีเท่านั้น ยังจะต้องเข้ามาสะสางปัญหาที่คาค้าง รวมไปถึงจะต้องเป็นคนที่เข้าใจบริบทของท่านผู้นำ ที่ภาพส่วนตัวเด่นชัดว่าใสซื่อมือสะอาด แต่หลังฉากที่ว่าด้วยบริวารโดยเฉพาะคนกันเองนั้น มีเรื่องของการบริหารจัดการที่จะสร้างความปวดหัวให้กับคนที่เข้ามาเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเมืองเป็นเรื่องของการลงทุนและคนที่บริหารการลงทุนทางการเมืองของขบวนการสืบทอดอำนาจก็คือพี่ใหญ่นั่นเอง

เป็นที่รู้กันว่าไม่ใช่การดูแลพวกฝากเลี้ยงที่มีจำนวนหลายสิบรายเท่านั้น การทำงานเพื่อให้เสถียรภาพของน้องเล็กมั่นคงและเกิดแรงกระเพื่อมน้อยที่สุด พี่ใหญ่จึงต้องเดินสายและต่อสายในการดูแลกลุ่มต่าง ๆ ที่จะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลด้วย โดยในจังหวะที่เงินกู้จำนวนมหาศาลผ่านไปนั้น มีหลายโครงการที่ต้องจับตามอง ส่วนจะต้องไปดูแลใคร พวกไหน อย่างไร ในทางการเมืองที่เห็นกันในกระดานก็ชี้นิ้วกันได้ไม่ยาก อยู่ที่ว่าจะต้องเติมน้ำใจใส่ตู้ปันสุขกันเท่าไหร่นั้นก็อีกเรื่อง

Back to top button