เริ่มออกของ
*หลังจากนั่งดูโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยมาพักหนึ่ง “โมนิก้า” ก็เริ่มเห็นสัญญาณเทคนิคหลายตัวมีอาการเมื่อยล้า พร้อมกับโค้งตัวลงวันละนิดวันละหน่อย จนทำให้ภาพของดัชนีอยู่ในจังหวะของการพักตัว เพื่อรอเวลาทะยานขึ้นรอบใหม่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทำให้แฟนคลับได้มีเวลาคิดไตร่ตรองก่อนเคาะขวา เพราะตัวแปรหลายอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญน่ะซี
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลังจากนั่งดูโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยมาพักหนึ่ง “โมนิก้า” ก็เริ่มเห็นสัญญาณเทคนิคหลายตัวมีอาการเมื่อยล้า พร้อมกับโค้งตัวลงวันละนิดวันละหน่อย จนทำให้ภาพของดัชนีอยู่ในจังหวะของการพักตัว เพื่อรอเวลาทะยานขึ้นรอบใหม่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทำให้แฟนคลับได้มีเวลาคิดไตร่ตรองก่อนเคาะขวา เพราะตัวแปรหลายอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญน่ะซี
*ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,408.37 จุด ลบไป 30.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท ย่อมเป็นเหตุการณ์ปกติของการเทรดบน P/E 20 เท่า และตรงจุดนี้เหมือนเป็นการชี้ให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่วงรอบของการปรับสมดุล จึงน่าจะมีเรื่องให้ลุ้นระทึกอีกเยอะเลยทีเดียว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นการทดสอบแรงขายรอบใหญ่ และตามติดมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกประปรายไงล่ะคะ
*วันนี้ถึงต้องถามแฟนคลับอย่างพร้อมเพรียงว่ายังกล้าลุยไฟอีกไหม ? เพราะดูเหมือนหลายคนออกอาการแหยงขึ้นมาในหัวใจอีกครั้ง ผนวกกับตลาดหุ้นต่างประเทศออกไปในโทนแดงเถือก ยิ่งทำให้นักเล่นขวัญอ่อนเกิดอาการจิตปั่นป่วนขึ้นมาทันที “โมนิก้า” ถึงอยากเม้าท์ถึงหุ้นหลากหลายรูปแบบ เพื่อชี้ให้เห็นรูปแบบการเล่นต้อง “เน้นเร็ว” ไว้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังพะยะค่ะ
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องมิ้น MINT ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ใครหลายคนงงเป็นไก่ตาแตก เพราะเมื่อดูรูปพรรณสัณฐานไม่น่าจะยืนต้านแรงขายได้ตลอดทั้งวัน บวกกับตัวเลขหลังบ้านยังแดงโร่ไม่เปลี่ยนแปลง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ 23.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.15 พันล้านบาท มันเป็นการสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงไหมเอ่ยตัวเอง
*เช่นเดียวกับในรายของน้องแบม BAM พยายามทะยานขึ้นยืนเหนือ 25 บาทมาหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเหมือนกับที่ “เฮียบรรยง” พยายามบิลต์อารมณ์นักเล่น “โมนิก้า” เลยมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอาถรรพ์มากกว่า จึงอยากให้แฟนคลับประเมินปรากฏการณ์ดังกล่าว แล้วนำมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 25 บาท ลบไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.84 พันล้านบาท มันเกิดขึ้นมาทั้งหมดกี่ครั้งแล้วเจ้าค่ะ
*คล้ายกับกรณีของพี่เทพ PTTEP มักแสดงอาการ “ท่าดี ทีเหลว” ทุกครั้งเมื่อหลายคนมีอารมณ์ร่วม “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นกลับมาตั้งหลักที่บริเวณ 90 บาท เพราะบริเวณดังกล่าวถือเป็นเซฟโซนสำหรับเก็บหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา (บุ๊กอยู่ที่ 95 บาท) เลยอยากให้ชาวสวนมองราคาปิดที่ 95.50 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.05 พันล้านบาท น่าสนใจขนาดไหนเจ้าค่ะ
*ไหน ๆ ก็ชอบมองสวนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ถึงอยากให้มองหุ้นปูนใหญ่ SCC ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะสเต็ปการขึ้นเที่ยวนี้มีประเด็นดันบริษัทลูกที่ทำธุรกิจบรรจุภัณฑ์เข้าตลาดหุ้นรวมอยู่ด้วย ผนวกกับมีเสียงแว่ว ๆ ดังมาแต่ไกลเกี่ยวกับยอดขายปูนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยมองราคาปิดที่ 367 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.01 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้สถาบันเข้ามาเล่นเก็งกำไรอีกหลายรอบนะจะบอกให้
*เหมือนกับหุ้นขายสาหร่าย TKN กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.80 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 9.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท ล้วนมาจากข่าวยอดขายพุ่งในไตรมาส 2 ผสานกับบรรดาแมงลือเม้าท์มอยถึงขาใหญ่เจ้าประจำหวนเข้ามาเก็บหุ้นอีกรอบ ทุกอย่างเลยดูเป็นเรื่องสมจริงสมจังและสอดรับกันไปหมด เพียงแต่นักเล่นบางคนไม่เชื่อว่าจะทำได้จริงในภาวะที่ทุกคนถูกโควิดเล่นงาน จึงต้องเผื่อใจกับเรื่องดังกล่าวไว้บ้างนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่น่าจะมีผลงานดีแน่นอนหลังบริษัทลูกช่วยกันเบ่งกำไรท่วมท้นอย่าง JMART ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่อยู่ในสายตา “โมนิก้า” ไม่เคยว่างเว้น เพราะเมื่อไล่ไทม์ไลน์ดูจะเห็นว่าวันพรุ่งนี้จะมีเรื่องของวอร์แรนต์ 3 วอร์แรนต์ 4 ตามติดด้วยงบไตรมาส 2 ยังโตตามเป้า ต่อจากนั้นจะมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นให้พาร์ตเนอร์ที่เป็นแบงก์เกาหลี หรือแม้กระทั่งการเก็บหุ้นเพิ่มของคนในตระกูล “สุขุมวิทยา” ล้วนเป็นภาพที่แสดงถึงแวลูของหุ้นยังไปได้อีกเรื่อย ๆ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 9.85 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท ต่ำเกินไปนะคุณพี่!