พาราสาวะถี

จะไปถามหาความชัดเจนอะไรกับคนที่ได้ชื่อว่าศรีธนญชัยรอดช่อง วันก่อนบอกว่างบประมาณจัดเลือกตั้งท้องถิ่นถูกใช้ไปในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 หมดแล้ว มาล่าสุด กลับบอกว่ามีงบประมาณแต่ยังไม่ได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สรุปแล้ว รัฐบาลสืบทอดอำนาจกำลังเล่นเอาล่อเอาเถิดกับประเด็นนี้อยู่ใช่หรือไม่ ทั้งที่ เหตุผลหลักคือการกลัวแพ้ในสนามท้องถิ่น จนกระทั่ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ประกาศว่าพรรคสืบทอดอำนาจพร้อมจัดการเลือกตั้งเพื่อแก้เก้อ


อรชุน

จะไปถามหาความชัดเจนอะไรกับคนที่ได้ชื่อว่าศรีธนญชัยรอดช่อง วันก่อนบอกว่างบประมาณจัดเลือกตั้งท้องถิ่นถูกใช้ไปในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 หมดแล้ว มาล่าสุด กลับบอกว่ามีงบประมาณแต่ยังไม่ได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สรุปแล้ว รัฐบาลสืบทอดอำนาจกำลังเล่นเอาล่อเอาเถิดกับประเด็นนี้อยู่ใช่หรือไม่ ทั้งที่ เหตุผลหลักคือการกลัวแพ้ในสนามท้องถิ่น จนกระทั่ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ประกาศว่าพรรคสืบทอดอำนาจพร้อมจัดการเลือกตั้งเพื่อแก้เก้อ

ความเป็นจริงที่ลากกันมายาวนาน อ้างเหตุอ้างผลสารพัดนั้นมันมีแค่ปัจจัยเดียวคือ การกลัวปราชัยอย่างหมดรูปของอำนาจสืบทอด เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเสียงส.ว.มาช่วยโหวตเลือกให้หัวหน้าเผด็จการมาสืบทอดอำนาจต่อได้ ทุกอย่างว่ากันด้วยเสียงของประชาชนล้วน ๆ ซึ่งจะแตกต่างออกไปจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่พรรคสืบทอดอำนาจและพรรคเครือข่ายประสบชัยชนะทุกนัดที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยอะไรก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว

ดังนั้น คำให้สัมภาษณ์ของผู้นำสืบทอดอำนาจยืนยันเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ มันจึงเป็นเหตุให้คนอย่าง วิษณุ เครืองาม ต้องปรับท่าทีเปลี่ยนท่วงทำนองหลังจากโยนหินถามทางแล้วถูกก้อนหินปาย้อนกลับมาหล่นใส่หัวตัวเอง ก็ต้องดูว่าด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ดีขึ้นประกอบกับการมีวงเงินกู้สู้โควิดและงบประมาณปี 2564 กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อาจจะเป็นปัจจัยทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจัดเลือกตั้งแล้วจะเป็นผลดีต่อฝ่ายกุมอำนาจก็เป็นได้

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับการท่องเที่ยวแบบจำกัดจับคู่ประเทศหรือทราเวล บับเบิล เพราะคนจำนวนไม่น้อยเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด สถานการณ์ในประเทศไทยอาจดูดีที่ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานานถึง 22 วันแล้ว แต่รายล้อมรอบตัวโดยเฉพาะประเทศแถบอาเซียนที่ปรากฏเป็นข่าวว่าสนใจแนวทางของประเทศไทยด้วยอย่างสิงคโปร์ ยังพบการติดเชื้อที่น่ากังวลอยู่ จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายคุณหมอและบุคลากรด้านสาธารณสุขจะต้องช่วยรัฐบาลที่หน้ามืดให้คิดอย่างมีสติ

ฟังจากเสียงของ อนุทิน ชาญวีรกูล เข้าใจได้ว่าต้องการจะสร้างผลงานในการเรียกเม็ดเงินเข้าประเทศ หากเป็นในแง่ของภาคธุรกิจที่จำกัดคนแค่ไม่กี่กลุ่ม เข้ามาอย่างมีเป้าหมาย คนไทยก็พอจะรับกันได้ แต่ถ้าจะปล่อยให้มาเที่ยวแม้จะกำหนดจุดหรือมีใบรับรองทางการแพทย์อย่างไร คงไม่มีใครเชื่อถือ ยิ่งบอกว่าถ้ามาเที่ยวแบบนี้ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ก็เห็นกันอยู่คนไทยที่เดินทางกลับประเทศ วัดไข้ ตรวจเชื้อต้นทางและวันที่เดินทางมาถึงไม่พบเชื้อ พอวันจะออกจากสถานที่กักกันกลับตรวจพบ นี่ต่างหากคือสิ่งที่ต้องอธิบายให้ได้

เพราะรายทางก่อนหน้านี้ คณะกรรมการวิชาการในศบค.เองก็กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเพิ่มระยะเวลากักตัวให้นานขึ้นเป็น 21 หรือ 28 วันหรือไม่ แต่เคสที่พบยังมีจำนวนไม่มากพอที่จะสรุปได้ว่าระยะฟักตัวของเชื้อนานกว่า 14 วัน ดังนั้น เมื่อยังไม่ชัวร์และยังไร้ซึ่งวัคซีน ยารักษาโดยตรง คงไม่จำเป็นต้องรีบกันถึงขนาดนั้น เอาแค่เงินกู้ 4 แสนล้านบาทเพื่อการฟื้นฟูประเทศหลังโควิดคลี่คลาย ช่วยอธิบายการกันให้ชัด บอกกันให้กระจ่างก่อนดีกว่าไหมว่าจะทำอะไรบ้าง

นาทีนี้คนไทยทั้งประเทศควรจะได้เห็นภาพแล้วว่า เงินกู้ 4 แสนล้านบาท มีการกำหนดทิศทางการใช้อย่างไร เป็นการใช้ไปเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริงหรือไม่ ทำให้เกิดการจ้างงานและก่อให้เกิดรายได้ใหม่ในพื้นที่หรือเปล่า เพราะเงินก้อนนี้เปรียบเสมือนน้ำมันถังสุดท้ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลไม่สามารถใช้เงินกู้ก้อนนี้สตาร์ตเครื่องยนต์ประเทศไทยให้ติดได้ เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนัก ประชาชนจะทุกข์ยากอีกยาวนาน

หรือเป็นการส่งสัญญาณมันจะเป็นเช่นนั้นจริง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงสั่งให้ระทรวงการคลังเตรียมตั้งโรงทานทุกอำเภอ โดยใช้เครือข่ายของธนาคารรัฐทุกแห่งช่วยเหลือให้ชาวบ้านได้ประทังความหิวโหย ด้วยมองเห็นแล้วว่าจากนี้ไปจะมีคนตกงาน ว่างงานและขาดรายได้จำนวนมาก ดังนั้น จึงยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะต้องเร่งสร้างความชัดเจน ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าการฟื้นฟูนั้นจะดำเนินไปในลักษณะใดและการเยียวยายังจะเป็นส่วนหนึ่งของการประคับประคองสถานการณ์อยู่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์แบบนี้คนไทยทุกคนจะรอรัฐบาลเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ อาจจะต้องวางแผนชีวิตกันขนานใหญ่ ต้องเตรียมใจรับอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะผู้บริหารประเทศเองยังมองอนาคตไม่ออก ขณะที่สถานการณ์การเมืองภายในรัฐบาลก็ยังคงเกิดแรงกระเพื่อมไม่หยุดหย่อน พี่ใหญ่ที่บอกไม่อยากเป็นหัวหน้าพรรค กลับพบว่ามีการวางตัวคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคสืบทอดอำนาจไว้เรียบร้อยแล้ว

ไม่มีอะไรพลิกโผ รายชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้าแทบจะนอนมากันทุกคน ส่วนทีมงาน 4 กุมารทำได้แค่เก็บความเจ็บช้ำน้ำใจเป็นบทเรียน แล้วก็เดินกันต่อบนถนนสายการเมืองอันโหดร้าย ได้ฟัง สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ คนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตเลขาธิการพรรคสืบทอดอำนาจ บอกว่ายังไม่ท้อทางการเมือง นั่นก็ย่อมทำให้มองเห็นว่าเส้นทางเดินของเด็กในคาถาเฮียกวงจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นในภาวะที่ถูกกระทำแล้วไม่ถอดใจเช่นนี้ นั่นหมายความว่า กระสุนและเสบียงทางการเมืองมีเหลือเฟือ

ตัดภาพกลับไปที่กระทรวงคุณหมอ เรื่องวุ่น ๆ ของตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่นอันเนื่องมาจากเงินทอน 5 เปอร์เซ็นต์จากบริษัทยา กำลังย้อนกลับมาทำให้อนุทินต้องกุมขมับ เพราะการตัดสินใจย้ายผอ.คนเดิมแล้วตั้งรักษาการคนใหม่ จนคนใหม่เพิ่งประกาศไขก๊อกถอนตัวออกไปนั้น มันสะท้อนให้เห็นปัญหาลูบหน้าปะจมูก จัดการคนนี้ที่นี่ มันยังมีที่อื่นที่เป็นปัญหาก็อย่างที่หมอหนูตั้งคณะกรรมการส่วนตัวตรวจสอบ 186 โรงพยาบาลนั่นปะไร

ในบางเรื่องหากไม่ใช่กรณีของการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยคนหมู่มากได้รับอานิสงส์ การจะเข้าไปจัดการโดยอ้างความชอบธรรม แต่เบื้องลึกก็ถูกมองว่าเพื่อจะเคลียร์ทางให้เจ้าใหม่ได้เข้าไปเสนอผลประโยชน์แทน หากเป็นเช่นนั้นจริงก็สิ้นหวัง ทำไมทำมาหาใช่การทำให้องค์กรโปร่งใส สุดท้ายกลายเป็นการลากไส้ ประจานตัวเองไปเสียฉิบ

Back to top button