TSR รับโอกาสเติบโตในธุรกิจ

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 63 ของ TSR คาดมีโอกาสเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งในแง่รายได้และกำไร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2563 ของ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR คาดมีโอกาสเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งในแง่รายได้และกำไร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในแง่ของรายได้จากการขายคาดได้แรงหนุนบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลดีต่อการขยายฐานลูกค้าด้วยกลยุทธ์การตลาดของบริษัทที่ยังเน้นช่องทางการขายตรงเป็นหลัก หลังบริษัทหลายแห่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Work from Home มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนช่องทางออนไลน์ปัจจุบันก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากช่วงก่อนหน้า สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้ทำการออกเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่ที่มีราคาถูกลง สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ C- ที่มีกำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้ที่ค่อนข้างจำกัด แต่ยังมีความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการบริโภคน้ำสะอาด ซึ่งปัจจุบันถือว่าได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยราคาที่ไม่แพง (ไม่ถึงหลักหมื่นบาท) รวมถึงมีรูปแบบการผ่อนชำระแบบรายเดือน เดือนละ 700-1,000 บาท

อีกทั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 บริษัทเตรียมต่อยอดเครื่องกรองน้ำของบริษัทเข้าคู่กับชุดเครื่องทำน้ำแข็ง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการผลิตน้ำแข็งที่มีความสะอาดเมื่อเปรียบเทียบกับชุดเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นธรรมดา โดยกลุ่มเป้าหมายของบริษัท ได้แก่ ร้านอาหาร, โรงแรม, ร้านสะดวกซื้อ, สำนักงานและครัวเรือน ฯลฯ ผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บจก. อัลไพน์ วอเตอร์” ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 54%

พร้อมกับช่วงที่เหลือของปีคาดยังสามารถเติบโตได้อีกจากจำนวนทีมงานขายตรงที่คาดเพิ่มขึ้นเป็น 280 ทีมภายในไตรมาส 4/2563 จากสิ้นไตรมาส 1/2563 มีอยู่ที่ 211 ทีมซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายเพิ่มสูงขึ้น

ดูจากตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 449.54 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 394.39 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 24.79 ล้านบาท หรือ 0.045 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.60 ล้านบาท หรือ 0.037 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่เติบโตแกร่งมีแรงหนุนจาก 1. รายได้จากการขายที่เติบโต 14.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของตัวแทนขาย 2. รายได้ดอกผลตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 12.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังฐานลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อขยายตัว 16.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 3. GPM ที่เพิ่มขึ้น 73.8% ช่วยผลักดัน GP เพิ่มขึ้น 17.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ถึงอย่างไทาง บล.ฟิลลิป มองจากประเด็นที่มีความกังวลในช่วงก่อนหน้านี้ว่า ผลดำเนินงานปี 2563 ของ TSR คาดมีโอกาสได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งอาจกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค คาดชะลอตัว ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้านั้น บัดนี้ด้วยผลดำเนินงานที่ประกาศออกมาในช่วงไตรมาส 1/2563 ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่าบริษัทได้รับผลประโยชน์มากกว่าผลเสีย

ในขณะที่ช่วงที่เหลือของปีคาดยังสามารถเติบโตได้อีกจากจำนวนทีมงานขายตรงที่คาดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายเพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ที่ทำได้ดีด้วยการรักษาระดับ NPL Ratio ไม่ให้เกิน 5.0%

ดังนั้นจึงปรับเพิ่มมุมมองเป็นบวกสำหรับผลดำเนินงานของ TSR โดยคาดว่าปี 2563 บริษัทจะมีกำไรสุทธิแตะ 125 ล้านบาท เติบโต 13.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ภายใต้สมมติฐานรายได้จากการขายคาดเพิ่มขึ้น 15.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รวมถึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิม “ถือ” ประเมินราคาพื้นฐานปี 2563 ใหม่ที่ 2.40 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด 144,107,715 หุ้น 26.22%
  2. นายวีรวัฒน์ แจ้งอยู่ 97,483,025 หุ้น 17.73%
  3. น.ส.สวิตา แจ้งอยู่ 34,433,796 หุ้น 6.26%
  4. นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ 33,958,413 หุ้น 6.18%
  5. น.ส.เธียรวรรณี แจ้งอยู่ 33,695,673 หุ้น 6.13%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายสหัส ตรีทิพยบุตร ประธานกรรมการ, ประธานกรรมการบริหาร
  2. นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,  กรรมการ
  3. นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการ
  4. น.ส.เธียรวรรณี แจ้งอยู่ กรรมการ
  5. น.ส.สวิตา แจ้งอยู่ กรรมการ

Back to top button