หุ้นทีเด็ด.. สตอรี่สวย
*ดูเหมือนแฟนคลับจะเรียกร้องให้ “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับการเม้าท์ถึง “หุ้นทีเด็ด สตอรี่สวย” มากขึ้นกว่าวันที่ผ่านมา ผนวกกับเริ่มจับต้นชนปลายหุ้นหลายตัวไม่ถูก จึงอยากให้เดี๊ยนแชร์ประสบการณ์จากการ “ได้ยิน ได้เห็น” เรื่องชาวบ้านมาเยอะแยะ เพราะเป็นหนทางเดียวที่ช่วยเสริมภูมิความรู้ พร้อมกับแนะแนวความคิดให้เป็นกระบวนการมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนแฟนคลับจะเรียกร้องให้ “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับการเม้าท์ถึง “หุ้นทีเด็ด สตอรี่สวย” มากขึ้นกว่าวันที่ผ่านมา ผนวกกับเริ่มจับต้นชนปลายหุ้นหลายตัวไม่ถูก จึงอยากให้เดี๊ยนแชร์ประสบการณ์จากการ “ได้ยิน ได้เห็น” เรื่องชาวบ้านมาเยอะแยะ เพราะเป็นหนทางเดียวที่ช่วยเสริมภูมิความรู้ พร้อมกับแนะแนวความคิดให้เป็นกระบวนการมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ
*ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” พยายามมองเม็ดเงินของนักเล่นกลุ่มสถาบันที่ “เข้า ๆ ออก ๆ” สามารถช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยให้ยืนหยัดที่บริเวณนี้ได้นานแค่ไหน ? เดี๊ยนเม้าท์ได้ทันทีว่าวันนี้ดัชนียืนได้แน่นอน เพราะแรงซื้อที่เข้ามาเป็นการเล่นรอบ เพื่อรอเวลาเซ็ตเกมขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยปัจจัยหลักที่มีผลเต็ม ๆ อยู่ที่เศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวจากพิษไวรัสมรณะขนาดไหนเจ้าค่ะ
*ข้อมูลดังกล่าวเป็นตัวแปรที่ทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจเหลือเกินว่าทุกอย่างจะชัดสุด ๆ ในช่วงที่การดำเนินธุรกิจเดินมาถึงครึ่งทางของไตรมาส 3 ซึ่งจะเป็นจุดที่ชี้ให้เห็นสภาพเศรษฐกิจ “ฟื้น” หรือ “ฟุบ” หรือว่า “ทรง ๆ” และในจังหวะนี้ทุกคนจะได้เห็น “แรงซื้อ” ปะทะกับ “แรงขาย” อย่างเมามันเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงมองสภาพของตลาดหุ้นไทยในยามนี้ค่อนข้างมีแต้มต่อสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน (เราคุมโควิดได้ค่อนข้างดี และเมื่อเทียบสัดส่วนการติดเชื้อ ไทยก็ดีกว่าสิงคโปร์หลายช่วงตัว) นะจะบอกให้
*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,370.82 จุด ลบไป 2.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.33 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีความหมายอะไรกับ “โมนิก้า” มากนัก เพราะตราบใดที่ดัชนียังวนเวียนไปมาในกรอบ 1,330-1,420 จุด เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้แฟนคลับเข้าไปเล่นเก็งกำไรแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวได้อยู่ดี ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้อารมณ์ของเดี๊ยนคึกคักตลอดเวลา เพราะไม่รู้จะกลัวทำหอกอะไรน่ะซี
*เหมือนกับจังหวะวิ่งขึ้นของพี่เทพ PTTEP ท่ามกลางแรงเทขายที่ออกมาประปราย จนสุดท้ายยืนปิดที่ 95.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 พันล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นอีกครั้ง บรรดานักเล่นเลยกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิงตลอดทั้งวัน เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับขึ้นไปยืนแถว 45-46 เหรียญฯต่อบาร์เรล (ตอนนี้ 42 เหรียญฯ) หุ้นเลยมีโอกาสไปต่อนะจ๊ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องความเชื่อขึ้นมาทั้งที ก็ควรหันไปดูหุ้นนายหน้าขายประกันอย่าง TQM เพื่อชี้ให้เห็นบรรดากองทุนเข้ามาดันหุ้นแบบสุดซอย ล้วนเป็นผลมาจากประเด็นกำไรไตรมาส 2 น่าจะโตกระหึ่ม จึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 123 บาท บวกไป 7.50 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 661 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high แบบชิว ๆ ท่ามกลางค่า P/E 60 เท่าแบบนี้..เดี๊ยนแนะนำได้แค่ปล่อยให้กองทุนบรรเลงคนเดียวไปเถอะ!
*เนื่องจากตัวที่น่าจับตาดูสุด ๆ และแมงเม่าสามารถเอื้อมถึง “โมนิก้า” ขอเทใจไปที่หุ้น JMART โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิมดีกว่า เพราะสตอรี่ที่ดันหุ้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ล้วนอัดแน่นไปด้วยหลายเรื่องราว แต่ที่โดนใจสุดเห็นจะเป็นเรื่องบริษัทลูกเบ่งกำไรนิวไฮอย่างถ้วนหน้า ตัวแม่เลยรับอานิสงส์ผลบุญเต็ม ๆ พร้อมกับสะท้อนออกมาที่ราคาหุ้นในกระดานขึ้นมาปิดที่ 10 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 6.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 266 ล้านบาทไงล่ะคะ
*ส่วนรายที่ค่อนข้างเนื้อหอม และกลายเป็นที่พูดถึงมากในเรื่องหมู ๆ คงต้องยกให้กับหุ้น TFG หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 11.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 325 ล้านบาท ล้วนมาจากแนวโน้มส่งออกหมูเพิ่มขึ้น ผสานกับผลงานในไตรมาส 1 ทำกำไรได้ค่อนข้างดี บรรดาผู้รู้เลยประเมินสถานการณ์ทั้งปีต้องไฉไลกว่าปีก่อนแน่นอน อีกทั้งการเทรดวันนี้อยู่แค่ P/E 13.50 เท่า จึงเปิดช่องให้วางขวายาว ๆ อีกวันนะตัวเอง
*ตบท้ายกันที่เสือซุ่มแห่งวงการอสังหาฯ อย่าง ORI กันสักหน่อยดีกว่า เพราะแรงซื้อที่เข้ามาเมื่อวันศุกร์กลายเป็นตัวแปรที่ดันหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 5.55 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155 ล้านบาท พร้อมกับเปิดโอกาสในการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 5.90 บาทเป็นครั้งที่สอง หากผ่านไปได้ รับรองมีทีเด็ดให้ดูอีกเยอะแยะ..หากไม่ผ่าน น่าจะลงมากองแถว 5 บาทนะจะบอกให้