หุ้นเครื่องดื่ม ข่าวดีที่รอคอย.!

สำนักข่าวรัชดา

ถือเป็นข่าวดี…เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 9 มิ.ย.63 มีมติปรับลดภาษีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Functional Drink) หรือเครื่องดื่มนวัตกรรมที่มีสัดส่วนผสมน้ำผักและผลไม้ไม่ต่ำกว่า 10% จากเดิมเก็บอยู่ 10% เหลือ 3%…

เท่ากับว่าหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจะได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ จากต้นทุนภาษีที่ลดลง…

ในระหว่างนี้แต่ละบริษัทก็อยู่ระหว่างเตรียมตัวก่อนจะประกาศใช้ภาษีอัตราใหม่อย่างเป็นทางการ…ซึ่งตามไทม์ไลน์น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาปลายปีนี้

งานนี้คนที่ได้ประโยชน์มากสุด เห็นจะเป็นบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เพราะไม่ต้องปรับสูตรอะไรมาก เนื่องจากสินค้าเกือบทั้งหมดเป็น Functional Drink อยู่แล้ว

เบื้องต้นสินค้าที่เข้าเกณฑ์ได้สิทธิเสียภาษีอัตราใหม่ที่ 3% ทันที มีอยู่ราว 15% เช่น Beauti Drink, Aloe Vera และ Gumi เป็นต้น

นั่นจะทำให้ต้นทุนทางภาษีของ SAPPE ลดลงไตรมาสละ 3–6 ล้านบาท จากเดิม 9–15 ล้านบาท

แม้เป็นตัวเลขที่ไม่มากมายอะไร แต่อย่างน้อยก็คงพอทำให้ตัวเลขกำไร SAPPE ในปีนี้ไม่ขี้เหร่มากนัก

โดยนักวิเคราะห์คาดว่า กรณีนี้จะเป็นบวกต่อประมาณการกำไรสุทธิ SAPPE ปีนี้ราว 4% และปรับกำไรเป็น 349 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 335 ล้านบาท ลดลง 13.4% จากปีก่อน

นี่ราคาหุ้นก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นเรื่อย ๆ รอรับข่าวดีกันแล้ว…โดยรอบ 1 สัปดาห์ปรับขึ้นไปแล้วกว่า 10%

ฟากบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ Functional Drink ราว 10% ของรายได้รวม จากเครื่องดื่ม C-Vitt ก็ได้รับประโยชน์ไม่น้อย

โดยคาดว่าจะมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากการประหยัดต้นทุนภาษีราว 70% หรือประมาณ 1 บาทต่อขวด และจะทำให้มีกำไรดีขึ้นราว 2-2.5%

น่าเสียดายทั้ง ๆ ที่เป็นข่าวดี…แต่ราคาหุ้น OSP กลับไม่ตอบรับเอาซะเลย…

เอ๊ะ..!! หรือ OSP จะมีอาการตายด้านไปแล้ว อันนี้ก็ไม่รู้สินะ…

ด้านบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG น้องใหม่ที่เพิ่งลงสนาม Functional Drink ด้วยการจับมือกับ “วู้ดดี้”- วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง ประเดิมส่งเครื่องดื่ม Woody C+ Lock ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน

นี่ล่าสุด “เฮียเสถียร เศรษฐสิทธิ์” ก็ประกาศทุ่มงบการตลาด 200 ล้าน เพื่อผลักดันยอดขายปีนี้ที่ 100 ล้านขวด พร้อมตั้งเป้าจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ตลาด Functional Drink ให้ได้

แหม๊…เกมนี้น่ารัก…น่าลุ้นจริง ๆ

แต่ไม่รู้ว่าข่าวดีชิ้นนี้จะทำให้ราคาหุ้น CBG กลับมาร้อนฉ่าอีกครั้งหรือไม่..? ต้องติดตามกันต่อไป

ส่วนบริษัทอื่น ๆ เป็นโอกาสที่จะมาลงแข่งในสนามนี้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง…

ไม่แน่ต่อไป อาจได้เห็นผู้เล่นรายใหม่ ๆ ลงมาแข่งในสนามนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะเค้กก้อนนี้ซึ่งในปี 2562 มีมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านบาท มันช่างหอมหวนซะเหลือเกิน…

เอาน่า…แม้จะช่วยลดต้นทุนได้ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็เป็นข่าวดีที่รอคอยที่จะทำให้หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น…หลังจากต้องเหี่ยวเฉามาพักใหญ่ ๆ

…อิ อิ อิ…