ถ่วงความเจริญ ?

*หากถามความรู้สึกของ “โมนิก้า” ที่มีต่อตลาดหุ้นก่อนหน้านี้ จนมาถึงตอนนี้ และข้ามถัดไปถึงตอนหน้า ก็ยังมีความรู้สึกดีให้แก่กันเหมือนเดิมทุกประการ เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่ายังพอมีหวังได้เห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วงไตรมาส 3 จึงมองปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงเรื่องที่ต้องผ่านไปให้ได้ และต้องมองให้ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้านะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากถามความรู้สึกของ “โมนิก้า” ที่มีต่อตลาดหุ้นก่อนหน้านี้ จนมาถึงตอนนี้ และข้ามถัดไปถึงตอนหน้า ก็ยังมีความรู้สึกดีให้แก่กันเหมือนเดิมทุกประการ เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่ายังพอมีหวังได้เห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วงไตรมาส 3 จึงมองปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงเรื่องที่ต้องผ่านไปให้ได้ และต้องมองให้ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้านะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ ธปท.ทำตัวเหมือนเป็นจระเข้ขวางคลองโดยไม่อธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้กระจ่างชัด และพูดถึงเหตุผลในการออกคำสั่งห้ามแบงก์ทุกแห่งจ่ายปันผลระหว่างกาล และซื้อหุ้นคืนอย่างเด็ดขาด ย่อมสร้างความสั่นสะเทือนทางอารมณ์ให้กับนักลงทุนสถาบันอย่างเลี่ยงไม่ได้ และทำให้ผู้คนมากมายแตกตื่นเกี่ยวกับฐานะความมั่นคงของแบงก์ต่าง ๆ ขึ้นมาทันทีนะตัวเอง

*เนื่องจากความคิดแว๊บแรกของคนทั่วไปกังวลกันว่าแบงก์จะเจ๊ง ? ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะคิดแบบนั้น! เพราะในช่วงที่ผ่านมาทุกคนรับรู้กันอย่างแพร่หลายว่ามาตรฐานบัญชีใหม่ทำให้แบงก์ทุกแห่งมั่นคงกว่าเดิม และในช่วงไตรมาส 2 ก็กระโดดเข้าไปช่วยลูกหนี้ของตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมกับเอ่ยปากอย่างมั่นใจว่าไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น เพราะได้เตรียมแผนสองสำรองไว้หมดแล้วนะคะ

*นั่นหมายความว่า ธปท.กำลังบริหารงานสวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และทำให้ทุกคนสงสัยสถานการณ์ของธุรกิจแบงก์แย่กว่าที่เห็นในเวลานี้หรือเปล่า ? “โมนิก้า” ถึงมองพฤติกรรมของคนในหน่วยงานดังกล่าวเก่งแต่ตำรา และไม่เคยรู้ชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่ต้องการอะไร ? และความชิบ…ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เลยตกอยู่ที่หุ้นกลุ่มแบงก์ไปโดยปริยายไงล่ะคุณท่าน!

*วานนี้ถึงเห็นตลาดหุ้นไทยทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 1,352.18 จุด ลบไป 18.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.57 หมื่นล้านบาท และถ้ามองแค่หุ้นแบงก์กลุ่มเดียวก็มีผลต่อดัชนีถึง 7 จุด “โมนิก้า” ถึงไม่อยากจะเม้าท์อะไรไปมากกว่านี้ เพราะในสมัยหนึ่ง ธปท.ก็เคยทำดัชนีตก 100 จุดมาแล้ว เดี๊ยนถึงมองเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ตลาดหุ้นไทยต้องสยบอยู่ใต้อุ้งเท้าหน่วยงานแห่งนี้…อิอิอิ

*วันนี้จึงของดเว้นเม้าท์ถึงหุ้นแบงก์เป็นการชั่วคราว เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน ล้วนแต่เลือดสาดเต็มตัวกันทั้งนั้น เดี๊ยนเลยขอเม้าท์ถึงหุ้นกลุ่มอื่นเพื่อเสริมกำลังใจดีกว่า และตัวที่แรงจัดปลัดบอก ต้องยกให้ STA หลังยืนหยัดบวกสวนภาวะด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น ก่อนจะปิดตลาดฯ ไปที่ระดับ 29 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท มันทำให้ขาลุยมีความหวังว่าหุ้นจะเดินหน้าขึ้นทำ new high อีกนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JMART กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 11.20 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 640 ล้านบาท ทำให้แมงลือเม้าท์กันยกใหญ่ว่าวอลุ่มซื้อที่เข้ามาหนาแน่นมากเป็นพิเศษแบบนี้ น่าจะมาจากกองทุนตบเกียร์ห้าเดินหน้าลุยสุดตัว จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน เพราะสตอรี่ที่จะทำให้กำไรโต แบให้เห็นมาตั้งแต่ต้นปีแล้วนะคะ

*ส่วนรายที่กลับมาดันรอบใหม่อย่างหุ้น THCOM ก็ถือเป็นช็อตไหลตามน้ำด้วยเช่นกัน หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.75 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230 ล้านบาท “โมนิก้า” ไม่สามารถอธิบายเป็นอย่างอื่นได้เลย นอกเสียจากประเด็นเทิร์นอะราวด์เป็นเรื่องหลัก จึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูงบไตรมาส 2 จะออกมาแจ่มแมวขนาดไหน ? เพราะตรงนั้นจะเป็นตัวชี้ราคาหุ้นควรไปต่อไหม ?

*สำหรับรายที่มาในลักษณะเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ อย่างหุ้นลูกเจี๊ยบ GFPT กลายเป็นหุ้นอีกรายที่นักเล่นไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะเมื่อดูจากสเต็ปของตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ทำได้ค่อนข้างดี ก็ทำให้เชื่อว่าตัวเลขผลงานไตรมาส 2 น่าจะดีขึ้นอีก และในไตรมาส 3-4 ก็คงพุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียว “โมนิก้า” ถึงอยากให้คุณหนู ๆ ประเมินราคาปิดที่ 13.70 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 241 ล้านบาท สมเหตุสมผลในการเข้าตะลุมบอนต่ออีกวันอ๊ะป่าว ?

Back to top button