RS กลับสู่เส้นทาง
RS รูดลงอย่างต่อเนื่อง และรอวันที่จะทะยานกลับขึ้นไปใหม่อีกรอบ แต่เผอิญปัจจัยหลายอย่างไม่เป็นใจ ส่งผลให้ราคาหุ้นยังคงย่ำฐานไปมาที่บริเวณ 10-11 บาท และมีโอกาสหุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีก เพราะตลาดหุ้นเต็มไปด้วยข่าวร้ายๆ ไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นเลยสักเรื่อง
สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย
คุณฐากร จากราชครู กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น RS หรือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มีอะไรหลายอย่างที่เหล่านักเล่นต้องหัดคิดล่วงหน้า และต้องพยายามเข้าใจมูฟเม้นท์ของหุ้นที่อิงกับผลประกอบการเป็นหลักนั้น การเคลื่อนไหวของหุ้นมักจะไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเป็นประจำ
และตรงจุดนี้คือโอกาสของการเข้าลงทุนรอบใหม่ (ตามความคิดของผม) เพราะจุดต่ำสุดของการทำธุรกิจได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากแผนการตลาดเชิงรุกที่ทำอย่างหนักในช่วงต้นปี 58 ผสมผสานกับเรตติ้งที่ดีวันดีคืนขึ้นเรื่อยๆ จึงน่าจะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการทยอยลงทุนในช่วงนี้ และอาจารย์มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกับผมหรือเปล่า?
ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของนักลงทุนแต่ละราย และไม่ควรไปบีบบังคับให้คนอื่นต้องเชื่อตาม เพราะแนวทางในการลงทุนไม่เหมือนกัน บวกกับภาวการณ์ลงทุนในแต่ละช่วงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โอกาสที่หุ้นจะทะยานขึ้นแรงเหมือนในอดีต จึงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆ อีกต่อไป
ด้วยเหตุผลข้างต้นถึงทำให้หุ้น RS หรือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) รูดลงอย่างต่อเนื่อง และรอวันที่จะทะยานกลับขึ้นไปใหม่อีกรอบ แต่เผอิญปัจจัยหลายอย่างไม่เป็นใจ ส่งผลให้ราคาหุ้นยังคงย่ำฐานไปมาที่บริเวณ 10-11 บาท และมีโอกาสหุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีก เพราะตลาดหุ้นเต็มไปด้วยข่าวร้ายๆ ไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นเลยสักเรื่อง
ถึงกระนั้นถ้ามองดูจากคำอธิบายการเติบโตของบริษัทซึ่งมีการพูดถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมีการชะลอตัว ทำให้เม็ดเงินโฆษณาจากสินค้าและบริการได้รับผลกระทบตามไปด้วย ในสภาวะที่เม็ดเงินโฆษณาหดตัวเช่นนี้ ช่องทีวีที่ได้รับความนิยมสูง มีเรตติ้งในอันดับท็อปของประเทศอย่าง “ช่อง 8” “ช่อง2” “สบายดีทีวี” และ “You Channel” ของกลุ่ม RS จึงมีความได้เปรียบคู่แข่งในการแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณา และมีความสามารถในการแข่งขันสูง
โดยดูได้จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 มีรายได้รวมเท่ากับ 835.8 ล้านบาท มาจาก 3 ธุรกิจหลักด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจสื่อ 588.5 ล้านบาท, ธุรกิจเพลง 86 ล้านบาท และธุรกิจอีเวนต์ 95.2 ล้านบาท ซึ่งทำกำไรสุทธิได้เท่ากับ 42.2 ล้านบาท เท่ากับส่งสัญญาณให้รู้ว่า ครึ่งปีหลังกำไรน่าจะมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโฆษณา
ข้อมูลตรงนี้เป็นการตอกย้ำว่า RS น่าจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนควรทอยเก็บเข้าพอร์ตจริงๆ แต่ควรเป็นการลงทุนเพื่อหวังผลในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านะครับ
…
