ลุ้นเด้งกลับ
*ในเมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกต้องเผชิญกับข่าวร้ายสารพัดเรื่องราว “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องหลับหูหลับตาสวนกระแส และพยายามทำตัวโอนอ่อนตามกระแสที่เกิดขึ้นมากกว่า เพราะของมันเห็นกันมาตั้งแต่ต้นว่าดัชนีขึ้นมาด้วยความเชื่อล้วน ๆ โดยมีจุดเหมาะสมสำหรับการลงทุนหลายจุดด้วยกัน ไล่เรียงตั้งแต่บริเวณ 1,200-1,250 จุด ขยับขึ้นมาเป็น 1,300 จุด ต่อเนื่องจนมาถึงระดับ 1,330 จุดก็มีเหมือนกันเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในเมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกต้องเผชิญกับข่าวร้ายสารพัดเรื่องราว “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องหลับหูหลับตาสวนกระแส และพยายามทำตัวโอนอ่อนตามกระแสที่เกิดขึ้นมากกว่า เพราะของมันเห็นกันมาตั้งแต่ต้นว่าดัชนีขึ้นมาด้วยความเชื่อล้วน ๆ โดยมีจุดเหมาะสมสำหรับการลงทุนหลายจุดด้วยกัน ไล่เรียงตั้งแต่บริเวณ 1,200-1,250 จุด ขยับขึ้นมาเป็น 1,300 จุด ต่อเนื่องจนมาถึงระดับ 1,330 จุดก็มีเหมือนกันเจ้าค่ะ
*ไม่เพียงเท่านี้..ยังมีการมองในมุมบวกไล่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1,380 จุด ขยับขึ้นไปเป็น 1,400 จุด ก่อนจะอัพเลเวลขึ้นไปยังระดับ 1,450 จุด พร้อมกับพูดถึงจุดพีกอยู่แถว 1,470 จุด ขณะที่สถานการณ์จริงในช่วงที่ผ่านมาคือ ดัชนีขึ้นมาทำจุดสูงสุดได้ที่บริเวณ 1,454.95 จุด ต่อจากนั้นก็ไหลรูดลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 1,325.88 จุด ลบไป 7.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.08 หมื่นล้านบาทนะจะบอกให้
*ข้อมูลข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่าดัชนีมีโอกาสเด้งกลับค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาพยุงดัชนีมากขึ้น ผสานกับดัชนีลงมายืนใกล้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยา เดี๊ยนเลยมองสถานการณ์ตลาดหุ้นเวลานี้เหมาะต่อการเสี่ยงดวง โดยเฉพาะบรรดานักเล่นขาลุยที่ชอบเสี่ยงเป็นชีวิตจิตใจ มันคือความท้าทายครั้งใหม่ที่มาพร้อมกับผลตอบแทนที่เย้ายวนใจไงล่ะคะ
*โดยเฉพาะในรายของหุ้นร้านสะดวกซื้อ CPALL ถือเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นมีอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปตามกัน หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 66.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.96 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องบริหารจัดการด้วยตัวเอง เพราะแรงซื้อที่เข้ามาช้อนหุ้นในภาคบ่ายทำให้เชื่อว่าวันนี้จะรีบาวด์พะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ WHA ถูกสาดออกมาแบบไม่ยั้ง แต่ก็มีแรงซื้อเข้ามาดันสู้เป็นระยะ จนสุดท้ายยืนปิดไปที่ระดับ 3.24 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 543 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นหุ้นทางเลือกที่น่าสนใจในยามนี้ แถมเมื่อดูโมเมนตัมของธุรกิจที่เริ่มเปิดขึ้นมาอีกครั้ง จึงเชื่อว่านี่คือจังหวะต้องสวนเข้าไปเก็บหุ้นเพื่อทำรอบนะตัวเอง
*อีกรายที่น่าสนใจสุด ๆ คงหนีไม่พ้นพ่อดอกมะลิ JAS หลังราคาหุ้นซึมลงแบบไม่มีลิมิตเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนลงมาทำ double bottom ด้วยการยืนปิดที่ระดับ 3.62 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 215 ล้านบาท เดี๊ยนย่อมเล็งเห็นโอกาสของการลุ้นรีบาวด์มาตั้งแต่หัววัน ผนวกกับแรงเทขายในช่วงหลังไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ จึงรู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องวอร์รี่..หากมีใจที่จะเล่นนะคะ
*ประเด็นข้างต้นเหมือนกับอาการแกว่งตัวไปมาของ SUPER ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา น่าจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ทำให้รู้ว่าบรรดากองทุนยังเข้า ๆ ออก ๆ หุ้นตัวนี้เป็นว่าเล่น บวกกับตัวเลขกำไรน่าจะมาตามนัด เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 0.96 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท มันไม่มีอะไรต้องวอร์รี่เลยจริง ๆ ถ้าต้องการชัวร์ลองยกหูกริ๊งกร๊างไปสอบถาม “เฮียจอม” ดูก็ได้ค่ะ
*ส่วนคนที่คิดจะตามน้ำแบบมัน ๆ “โมนิก้า” ขออนุญาติชี้เป้าไปที่หุ้นยาง NER เพื่อไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบหุ้นเด้งมัน โดยเฉพาะในมุมของการทำจุดสูงสุดไว้แถว 3 บาท ยิ่งกระตุ้นต่อมความอยากรู้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ว่าเที่ยวนี้จะวิ่งทะลุยอดเดิมไปได้ไกลแค่ไหน ? เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 2.58 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 162 ล้านบาท กลายเป็นไฟต์บังคับที่ต้องตามไปดูนะจ๊ะ
*รายที่ดันกลับชัดเจนสุดคงมองไปที่ DOHOME เป็นรายถัดมา เพราะเมื่อดูจากราคาปิดวันก่อนที่ 9.85 บาท เทียบกับราคาเปิดวานนี้ที่ 9.50 บาท น่าจะหมายถึงหุ้นหมดรอบเล่นอย่างเป็นทางการ แต่ในระหว่างวันกลับมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระยะ จนดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 10.30 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 380 ล้านบาท จึงกลายเป็นช็อตที่น่าตามไปดูก็เท่านั้นเองจ้า!