หุ้นโรงพยาบาลสู่ไฮซีซั่น!

เส้นทางนักลงทุน

การเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปี 2563 อย่างเป็นทางการตามเกณฑ์ของอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป และสิ้นสุดลงในช่วงกลางเดือน ต.ค. 2563

ผลที่ตามมาเมื่อเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว สิ่งที่ประชาชนต้องระวัง คือ การสัมผัสกับน้ำฝน เพราะในน้ำฝนมีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคบางอย่างที่จะทำให้ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะ 6 โรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับหน้าฝนต่อไปนี้ 1. โรคจากไวรัส 2. คอติดเชื้อ 3. ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ 4. ผิวหนังอักเสบ 5. โรคฉี่หนู  6. ไข้เลือดออก เป็นต้น

และเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น ประชาชนก็ต้องเข้าไปทำการรักษาในสถาน “โรงพยาบาล” เพราะถือเป็นสถานบริการด้านสาธารณสุข

ดังนั้น เมื่อเข้าฤดูฝนเมื่อไร กลุ่มการแพทย์ก็เป็นช่วงไฮซีซั่นเมื่อนั้น

นอกจากกลุ่มโรงพยาบาลจะได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับอานิสงส์ควบคู่ไปพร้อมกับกรณีเปิด Travel Bubble หรือจับคู่ประเทศเดินทาง อย่างกลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาเช่นกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ ซึ่งกำลังรอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่มีมติเห็นชอบ และผ่านมติครม.

สำหรับประเด็นข้างต้น ถือเป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจโรงพยาบาลในไทยค่อนข้างมาก จากในช่วงที่ผ่านมาคนไข้ต่างชาติปรับตัวลดลงเหลือศูนย์จากการล็อกดาวน์และปิดน่านฟ้าประเทศในช่วงเกือบ 3 เดือน รวมถึงคนไข้ในประเทศลดลงด้วยจากการชะลอเข้ารักษาช่วงโรคโควิด-19 ระบาด

ทั้งนี้ มาดูสิว่า หากกลุ่มการแพทย์เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นจากฤดูฝน ประกอบกับหากมีมติให้ต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลได้นั้น หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไหนได้รับประโยชน์บ้าง

พิจารณาจากสัดส่วนลูกค้าจากต่างประเทศ และในประเทศ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

หุ้นโรงพยาบาล อย่าง บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH มีฐานผู้ป่วยเป็นคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลมากสุดถึง 66% ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 34%

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS มีฐานผู้ป่วยคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลราว 30% ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลราว 70%

บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG หากดูภาพรวมจากฐานผู้ป่วยเป็นคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลราว 30% แต่หากแยกย่อยไปยังบริษัทลูกในตัวของโรงพยาบาลบำรุงเมืองที่มีฐานลูกค้าต่างชาติ 90% ซึ่งตัวนี้จะได้รับผลไปเต็ม ๆ  ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลราว 70%

บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH มีฐานผู้ป่วยคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลราว 12% ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลราว 88%

บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 มีฐานผู้ป่วยคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลราว 10% โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลราว 90%

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH มีฐานผู้ป่วยคนต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลราว 5-7% ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยเข้ารักษาพยาบาลราว 93-95%

เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง ประเมินทิศทางกลุ่มโรงพยาบาลจะกลับมาเติบโตสดใส โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 เพราะกลุ่มโรงพยาบาลจะมีผลประกอบการดีเป็นพิเศษ อิงจากช่วงที่ผ่านมาทุก ๆ ไตรมาส 3 มักอยู่ในช่วงพีก หรือที่มักพูดกันว่าช่วงไฮซีซั่นนั่นเอง

อีกทั้ง อย่างไรตามโรงพยาบาลเป็นกลุ่มหุ้นที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องยาวนานอยู่แล้ว…