พาราสาวะถี
ดำเนินพิธีกรรมกันเสร็จสรรพเรียบร้อยโรงเรียนพี่ใหญ่ ที่ประชุมพรรคสืบทอดอำนาจมีมติเลือก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งหัวหน้าพรรคด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ ตามมาด้วยการยกมือโหวตให้ อนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค เนื่องจากยังเหนียมหรือเตรียมที่จะเปิดตัวทีเดียวอย่างเป็นทางการไม่ทราบ งานนี้เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริงจึงไม่ได้มาแสดงตัวต่อที่ประชุม ปล่อยให้แม่บ้านพรรคคนใหม่ได้แสดงวิสัยทัศน์แต่เพียงผู้เดียว
อรชุน
ดำเนินพิธีกรรมกันเสร็จสรรพเรียบร้อยโรงเรียนพี่ใหญ่ ที่ประชุมพรรคสืบทอดอำนาจมีมติเลือก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งหัวหน้าพรรคด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ ตามมาด้วยการยกมือโหวตให้ อนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค เนื่องจากยังเหนียมหรือเตรียมที่จะเปิดตัวทีเดียวอย่างเป็นทางการไม่ทราบ งานนี้เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริงจึงไม่ได้มาแสดงตัวต่อที่ประชุม ปล่อยให้แม่บ้านพรรคคนใหม่ได้แสดงวิสัยทัศน์แต่เพียงผู้เดียว
ตามสูตร เสี่ยแฮงค์หลังได้รับตำแหน่งก็ประกาศจะนำพาประเทศชาติเดินไปข้างหน้าภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมลั่นวาจาที่ไม่รู้ว่าเป็นกลอนพาไปหรือได้ตระเตรียมอะไรกันไว้หมดแล้ว จึงเกิดความมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัวหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคภายใต้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่ใช่ใครที่ไหน นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาลนั่นเอง
หงายไพ่กันมาอย่างนี้ ก็เป็นอันรู้กันว่าการปรับครม.ที่จะเกิดขึ้นต้องมีชื่อของด็อกเตอร์แหม่มเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นเสนาบดีแน่นอน เช่นเดียวกับแม่บ้านพรรคสืบทอดอำนาจ แม้จะออกตัวว่าไม่เคยหวังเรื่องตำแหน่งแห่งหน ที่ออกมาพูดหลังการเลือกตั้งก็ไม่ได้เจตนาหวังผล แค่ปกป้องพรรคพวกที่พลาดหวังและถูกอีกฝ่ายกระทำการปล่อยข่าวให้ร้ายป้ายสีก็เท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในพรรคสืบทอดอำนาจหนนี้ เป็นที่รู้กันว่าเพื่อจัดสรรปันส่วนทุกอย่างให้ลงตัว
คณะบุคคลที่ไปส่งเทียบเชิญบิ๊กป้อมที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ก่อนหน้านั้น 13 ราย เกินครึ่งจะมีตำแหน่งในรัฐบาลประยุทธ์ 2/2 แน่ แต่ที่น่าสนใจเมื่อเปิดเผยทีมเศรษฐกิจกันมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และทีมงาน 4 กุมาร ต่างรู้ดีว่าถูกแทงข้างหลังมาโดยตลอด คนที่อยู่รายล้อมนอกกลุ่มล้วนแต่เป็นพวกที่วางใจไม่ได้ สุดท้าย ที่รับหน้าเสื่อเป็นนอมินีกันมาก็ไม่ได้สร้างความไว้วางใจให้กับขบวนการสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด
เห็นได้จากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นอกเหนือจากสี่กุมารที่ต้องเป็นผู้จากไปแล้ว ก็ยังมีคนในเครือข่ายรวมกันแล้ว 8 ชีวิตที่ไม่มีชื่อติดโผเป็นกรรมการบริหารด้วย รวมถึง ชวน ชูจันทร์ ผู้ริเริ่มก่อตั้งพรรคด้วย และนั่นย่อมสะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่าการปฏิเสธทั้งหลายทั้งมวลว่า จุดเริ่มต้นของพรรคสืบทอดอำนาจไม่ได้ยึดโยงกับรัฐบาลคสช.และผู้มีอำนาจในเวลานั้น ล้วนแต่เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ซึ่งจะว่าไปคนเขาก็รู้กันทั้งเมืองว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
ไม่ได้มีอะไรแยบยล ตั้งแต่ชื่อพรรครวมไปถึงเส้นทางของพรรคดังว่า เพียงแต่ไม่มีใครสามารถจะไปทักท้วงหรือเอาผิดอะไรได้แค่นั้น เมื่อทุกอย่างมันถูกจัดวางไว้สำหรับการสืบทอดอำนาจอยู่แล้ว ด้วยกลไกของกฎหมายและองคาพยพแห่งการสืบทอดอำนาจ มองไม่เห็นว่าจะสามารถเอาผิดคนที่อยู่ใต้อาณัติของขบวนการนี้ได้อย่างไร กรณีเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง ที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาเปิดหลักฐาน ข้อมูลและแนวทางการเอาผิด จะเป็นบทพิสูจน์ว่ากกต.ชุดนี้ทำงานกันอย่างไร
ยิ่งเห็นการขยับล่าสุดของ ไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะบทของกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ว่าด้วยข้อเสนอแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้งส.ส. จำเพาะเจาะจงในประเด็นการคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็เริ่มทำให้เห็นแล้วว่า กระบวนการทำงานที่ผ่านมาขององค์กรอิสระแห่งนี้นั้นมีปัญหาอย่างไร การตัดสินใจเรื่องสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จนเกิดส.ส.เอื้ออาทร ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า สิ่งที่ไพบูลย์ออกมาโยนหินถามทางนั้น ต้องมองลึกลงไปว่า เป็นการขยับเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของพรรคสืบทอดอำนาจ ซึ่งหวังผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นการปิดช่องไม่ให้บรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยได้มีที่ยืนเหมือนหนนี้ โดยที่เชื่อมั่นว่าพรรคของตัวเองจะชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง และจำนวนส.ส.ที่จะเป็นตัวชี้วัดคือปาร์ตี้ลิสต์จะต้องไม่ถูกกระจายเหมือนหนนี้ อันเป็นผลทำให้เกิดการต่อรองกันอุตลุด
หรือเป็นเพียงแค่การใช้แนวทางดังกล่าวมาขู่พรรคเล็กพรรคน้อยที่กำลังเดินเกมต่อรองในจังหวะที่จะมีการปรับครม.เที่ยวนี้ ถ้ายังกล้าหือก็จะเปลี่ยนแปลงกติกาทำให้ไม่มีใครได้กลับมาเป็นส.ส.ในครั้งต่อไป เพราะการออกมาพูดของคนที่ประกาศตัวว่าเป็นซามูไรกฎหมายนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติ ส่วนที่มีข่าวว่าบรรดาพรรคเล็กทั้งหลายจะตัดสินใจยุบเพื่อไปรวมกับพรรคสืบทอดอำนาจนั้น คงต้องคิดกันให้หนัก ถ้าไม่ใช่ระดับอย่างไพบูลย์ไปกระโดดเกาะขาใหญ่คงไร้อนาคต
อย่าลืมเป็นอันขาดการเป็นหัวหมาอย่างไรเสียก็มีพลังกว่ากันไปเป็นหางราชสีห์ ที่สำคัญคือ การเป็นหมากินกล้วยยังไงก็เชื่อได้ว่าจะต้องมีคนแจกให้ในสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง แม้รัฐบาลจะพ้นจากภาวะเสียงปริ่มน้ำแล้วก็ตาม หากไปเป็นหางของพรรคใหญ่ก็ไร้ราคา ต้องไปต่อแถวซึ่งก็ยาวอยู่แล้ว กลายเป็นพวกมองไม่เห็นหัวไปเสียฉิบ เชื่อได้ว่า ถ้าไม่มีการปูนบำเหน็จกันชนิดปฏิเสธได้ยาก คงไม่มีใครบ้าตัดสินใจแบบนั้น
หลังพรรคสืบทอดอำนาจจัดกระบวนทัพกันเสร็จแล้ว คิวต่อไปก็จะเป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ปรับครม.เรือเหล็กกันแบบไหน ที่ถูกจับตามองมากที่สุดหนีไม่พ้นพรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ยังจะได้นั่งที่เดิมหรือไม่ กลายเป็นว่า แทนที่คนจะมองไปยังฐานสนับสนุนอันหมายถึงจำนวนส.ส.ของพรรคเก่าแก่ กลับเห็นตรงกันว่าการจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ที่ชื่อ ชวน หลีกภัย จะชี้นิ้วไปในทิศทางใด
วันนี้ ศบค.ชุดใหญ่ประชุมเคาะมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 พ่วงด้วยการต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน คงไม่มีอะไรพลิกผัน เมื่อเนติบริกรอย่าง วิษณุ เครืองาม เดินเกมเคลียร์ทางอธิบายข้อกฎหมายกันเสียขนาดนั้น ประกอบกับคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่มั่นใจว่าหากไม่มีกฎหมายดังว่าแล้วสถานการณ์ของโควิด-19 จะเป็นอย่างไร จึงเข้าทางฝ่ายกุมอำนาจ แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าทำให้ประชาชนหายอดอยากไม่ได้ หากคนไม่มีจะกินกฎหมายแรงแค่ไหนก็เอาไม่อยู่