กองทุนดันดัชนี
วานนี้กองทุนเข้ามาไล่เก็บหุ้นในช่วงเวลา 16.00 น. หรือ “สี่โมงเย็น” พอดี
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้กองทุนเข้ามาไล่เก็บหุ้นในช่วงเวลา 16.00 น. หรือ “สี่โมงเย็น” พอดี
ทำให้ช่วยดันดัชนีที่ดูเหมือนจะปิดในแดนลบ และรายย่อยเริ่มขายของออกมา ให้พลิกกลับขึ้นมาเป็นบวกได้
และน่าจะมีรายการซื้อเพิ่มในช่วง ATC อีกด้วย
ส่งผลดัชนีปิดบวก 10.41 จุด
และเกือบขึ้นมาชนแนวต้านสำคัญ 1,350 จุด
กลุ่มหุ้นที่มีส่วนดันดัชนีท้ายตลาด คือ ธุรกิจน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรฯ ที่นำโดย “พี่ปอ” PTT-PTTEP และ กลุ่มสื่อสาร ADVANC
รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ KBANK และ BBL
แต่ก็มีหุ้นบางตัวที่นักลงทุนรายใหญ่ บรรดาเสี่ย ๆ เฮีย ๆ (รวมถึงกองทุน) เล่นกันอยู่ เช่น BAM ที่กระโดดพรวดขึ้นมาเกือบ 1.00 บาท ในช่วงเวลา 15.30 น.
และมีการไล่ราคามาเรื่อย ๆ ทำให้ปิดระดับสูงสุดของวัน 25.25 บาท
BAM ก็มีส่วนทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาด้วยเช่นกัน
วานนี้ที่กองทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้นรวมสุทธิอีก 2,232 ล้านบาท
เท่ากับว่า กองทุนซื้อติดต่อเป็นวันที่ 4 แล้วล่ะ
เริ่มจาก 26 มิ.ย. ซื้อ 2,135 ล้านบาท
29 มิ.ย. ซื้อ 1,852 ล้านบาท และ 30 มิ.ย. ซื้ออีก 3,511 ล้านบาท
และเมื่อรวมสี่วันก็เกือบ 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนเม็ดเงินที่เข้ามารอบนี้ เป็นไปได้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากกองทุน SSFX ที่ได้ประเมินกันว่า ณ 30 มิ.ย. น่าจะมีเข้ามาเบ็ดเสร็จกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ปุจฉา ถามว่า แล้วกองทุนจะซื้อสุทธิไปอีกนานแค่ไหน กี่วันล่ะ
ประเด็นนี้ หากย้อนกลับไปช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะพบว่า บางช่วง กองทุนจะซื้อ 3-4 วัน แล้วสลับมาขาย 1 วัน
แล้วก็กลับมาซื้อต่อ 4-5 วัน
หรือบางช่วงซื้อ 4 วัน แล้วขายติดต่อยาว 4 วันเลยก็มีเช่นกัน
ทว่า สถิติแบบนี้ อาจจะนำมาใช้อ้างอิงอะไรได้ไม่มากนัก เพราะคงขึ้นอยู่กับภาวะ ปัจจัยบวกลบในแต่ละช่วง
ดังนั้น หนทางที่ดี และต้องระวัง คือ การไล่ซื้อตามกองทุน
เพราะหากวันดีคืนดี “พี่กอง” หรือกองทุนเห็นรายย่อยตามขึ้นขบวนมาเยอะ ก็อาจถือโอกาส “สาดออก” ก็เป็นได้
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ บอกว่า “ตลาดยังไม่เป็นขาขึ้น”
และอยู่ในช่วงของการ “สร้างฐาน”
ดัชนีตลาดหุ้นจึงมีโอกาสที่จะร่วงลงไปอีกได้ที่บริเวณ 1,320 จุด หรืออาจจะต่ำกว่า 1,300 จุด ก่อนดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง
อย่างที่เคยเขียนไว้หลายครั้ง และนักลงทุนต่างทราบกันดี
นั่นคือ กองทุน คือกลุ่มนักลงทุนที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้น ด้วยการ “ซื้อ” หรือ “สาด” หุ้นในกลุ่ม SET50 ดัชนีก็จะเคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่กองทุนต้องการแล้ว
ส่วนทิศทางตลาดวันนี้ ต้องดูว่าเมื่อคืนนี้สหรัฐฯ รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ออกมาอย่างไร
การรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ EIA (คาดว่าลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล)
และที่สำคัญ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุม หรือ Fed minute
ส่วนปัจจัยในประเทศ มีประเด็นการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.
และที่ต้องจับตาเพิ่ม คือ หุ้นน้องใหม่ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก และเป็นไอพีโอ ในรอบ 4 เดือนที่เข้าเทรด
ก็น่าจะช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นได้บ้างล่ะ