PRINC ฤดูกาลลงทุน.!?

สำนักข่าวรัชดา

ยังสะกดคำว่า “กำไร” ไม่เป็นซะที..!! สำหรับบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ที่ผลประกอบการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุนเรื้อรัง…

ปี 2559 มีรายได้รวม 363 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 51 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 2,396 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 345 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 2,856 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 173 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 3,158 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 181 ล้านบาท

ล่าสุดไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 73 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 710 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจโรงพยาบาล 580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% และธุรกิจพัฒนาและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ 180 ล้านบาท ลดลง 14.2%

ที่จริงในแง่ของรายได้เติบโตทุกปี อยู่ในระดับ 2,000–3,000 ล้านบาท แต่ไร้วี่แววกำไร…

พัฒนาการ PRINC ช่วงที่ผ่านมาจะเน้นหนักไปที่การลงทุน ไปซื้อกิจการต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจโรงพยาบาล

อาทิเช่น เมื่อช่วงปลายปี 62 ส่งบริษัทลูกบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ร่วมทุนกับบริษัท ศรีสะเกษ เมดิเทค จำกัด สร้างโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดศรีสะเกษ ขนาด 60 เตียง มูลค่าลงทุน 500 ล้านบาท

รวมทั้งจับมือกับ บริษัท บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก จำกัด (BHN) เปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “Bumrungrad Health Network-Growing Together Model” จัดตั้ง “ศูนย์การผ่าตัดข้อและกระดูกสันหลัง” ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือของ PRINC

ส่วนเมื่อต้นปี 63 ส่งบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์-ชุมพร จำกัด เข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลวิรัชศิลป์ ที่จังหวัดชุมพร มูลค่า 512 ล้านบาท

ตามด้วยตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท พริ้นซิเพิล เอ็นเคจี จำกัด โดย PRINC ถือหุ้น 51% และกลุ่มทุนญี่ปุ่นถือหุ้น 49% ทำธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

ล่าสุดทุ่มเงิน 500 ล้านบาท ซื้อกิจการบริษัท รวมแพทย์สรรพสิทธิ์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์อินเตอร์ ขนาด 59 เตียง ที่จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านบริษัทลูกบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์-อุบลราชธานี จำกัด

โอเค…ก็พอเข้าใจได้ว่า เป็นช่วงของการลงทุนหว่านเมล็ดพันธุ์ ซึ่งฉุดให้ผลประกอบการไม่ค่อยน่าภิรมย์นัก

คำถามที่น่าสนใจ ถ้าหมดช่วงลงทุนไปแล้ว เป็นช่วงเก็บเกี่ยวดอกผลจะเป็นอย่างไร..?

PRINC จะพลิกกลับมาเติบโตโดดเด่นอย่างที่เฝ้ารอมั้ย..? อันนี้น่าคิด…

เพราะตอนนี้สิ่งที่นักลงทุนอยากเห็นมากสุด คงหนีไม่พ้นคำว่า “กำไร” ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน..?

นักลงทุนหลายคนคงเริ่มเบื่อสุภาษิต “อดเปรี้ยว…ไว้กินหวาน” แล้วละมั้ง…กลัวว่านอกจากต้องอดกินทั้งเปรี้ยวและหวานแล้ว อาจต้องขมขื่นแทนนะสิ…

เอาไงดีล่ะคะ “เฮียสาธิต วิทยากร”…

ขืนปล่อยไปเรื่อย ๆ เดี๋ยว PRINC จะกลายเป็นหุ้นตายซากที่ไม่มีใครเหลียวแลเอาได้นะคะเฮีย…

…อิ อิ อิ…