ความหวังลุกโชน!

*บรรยากาศการลงทุนที่กลับมาสุกสกาวสดใสเที่ยวนี้ทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ กำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้ จึงกระโจนใส่หุ้นแบบไม่มีอาการลังเลใจ เพราะเริ่มเห็นหนทางฟื้นตัวแบบร่ำไรในเบื้องหน้า ถึงแม้จะเป็นแสงสว่างที่ค่อนข้างริบหรี่ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้คนเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*บรรยากาศการลงทุนที่กลับมาสุกสกาวสดใสเที่ยวนี้ทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ กำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้ จึงกระโจนใส่หุ้นแบบไม่มีอาการลังเลใจ เพราะเริ่มเห็นหนทางฟื้นตัวแบบร่ำไรในเบื้องหน้า ถึงแม้จะเป็นแสงสว่างที่ค่อนข้างริบหรี่ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้คนเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะจ๊ะ

*สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่มีความจำเป็นต้องไปขวางความรู้สึกของนักเล่น เพราะข้อมูลที่พรั่งพรูออกมามีแต่เรื่องให้แฮปปี้ทั้งนั้น โดยเฉพาะการใช้เงินของกลุ่มคนต่าง ๆ เริ่มคล่องตัวขึ้นเยอะ และธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มมีสีสันมากขึ้นกว่าก่อน หรือแม้กระทั่งร้านรวงต่าง ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเริ่มทำมาค้าขายได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “แรงซื้อ” ปะทะกับ “แรงขาย” ตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,372.27 จุด ลบไป 1.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.11 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนเห็นว่ายังมีคนดักช้อนหุ้นเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่เริ่มไล่เก็บหุ้นใส่พอร์ตเหมือนกัน ภาพของตลาดหุ้นไทยถึงค่อนไปในทางที่ดีเป็นส่วนใหญ่นะจะบอกให้

*ตัวหลักที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดเที่ยวนี้กลายเป็นสุดเลิฟ EA หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 43.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.41 พันล้านบาท เพราะเป็นหุ้นที่มีตัวเลขกำไรโตสม่ำเสมอเป็นแบ็กอัพสำคัญ ผนวกกับโปรเจกต์ใหม่ในส่วนของโรงแบตเตอรี่ รถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า ก็เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่าก่อนอย่างเห็นได้ชัด เดี๊ยนถึงมองว่าหุ้นตัวนี้น่าจับตาพะยะค่ะ

*ส่วนรายที่นอนมาอย่าง GULF ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่กองทุนมักเก็บเข้าพอร์ตเป็นประจำ เพราะเมื่อดูโปรเจกต์โรงไฟฟ้าที่มีดีลใหม่เกิดขึ้นเป็นระยะ “โมนิก้า” ย่อมให้ความสำคัญไม่แพ้กับรายข้างต้น พร้อมกับมองราคาปิดที่ 38.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.86 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตให้แฟนคลับได้ลุ้นอีกครั้งว่ารอบนี้จะทะลุยอดเดิมบริเวณ 41.50 บาทไปได้ไกลขนาดไหน..อิอิอิ

*คล้ายกับอารมณ์ที่มีต่อหุ้น SUPER กระชากผ่านราคา 1 บาทปุ๊บ ก็ก่อให้เกิดคำถามปั๊บ “โมนิก้า” เลยขออธิบายเรื่องราวตรงนี้ง่าย ๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันอีกสักรอบว่า หากประเมินกำไรต่อหุ้นปี 2563 จบที่บริเวณ 0.10 บาท ต่อจากนั้นมาเทียบกับ P/E 11-13 เท่า ราคาหุ้นก็ควรขึ้นไปอยู่แถว 1.10-1.30 บาทใช่ไหม! และการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.04 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.70 พันล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับนักเล่นเชื่อในสมมติฐานดังกล่าวแค่ไหนเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นก็อย่าแปลกใจที่เห็นหุ้น PTG ถูกดึงขึ้นมาเล่นอีกรอบ เพราะคนที่เข้ามาเล่นเชื่อกันว่าผลงานไตรมาส 2 น่าจะออกมาแจ่มสุด ๆ และน่าจะทำให้ผลงานทั้งปีเป็นไปตามเป้า (บี 10 บี 20 ช่วยหนุน) จึงเข้ามาไล่ราคาแบบไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 17.70 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 811 ล้านบาทแบบแน่น ๆ และเปิดโอกาสไปต่อสวย ๆ นะออเจ้า

*เหมือนกับในรายของ RBF พอทำผลงานเข้าตากรรมการแบบไม่ต้องพูดเยอะ แรงซื้อจากกองทุนก็ไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 14.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท “โมนิก้า” เลยต้องเล่าพัฒนาการที่สำคัญให้ฟังอีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรที่ถือหุ้นเพิ่ม ความร่วมมือกับคู่ค้าที่แน่นแฟ้นขึ้น หรือแม้กระทั่งการต่อยอดไปยังต่างประเทศ สร้างแวลูให้กับหุ้นขนาดไหน ?..ลองไปดีดลูกคิดดูนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JMT เห็นกันทนโท่ว่าธุรกิจบริหารหนี้ที่ทำทุกวันนี้คือบ่อน้ำมันที่ทำเงินมหาศาลไม่ต่ำกว่า 10 ปี ยิ่งมีการตัดต้นทุนออกไปมากเท่าไหร่ กำไรก็จะกลับเข้ามามากเท่านั้น จึงไม่เคยกังขากับการพุ่งขึ้นของราคาหุ้นในแต่ละรอบ พร้อมกับลุ้นให้หุ้นทะลุยอดเดิมที่ทำไว้บริเวณ 25.50 บาท หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24.20 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาทน่ะซี

Back to top button