พาราสาวะถี
หรือจะจริงอย่างโบราณว่า คนเราในยามดวงตกมักจะมีอะไรประดังประเดเข้ามาอย่างคาดไม่ถึง เหมือนอย่างกรณีรัฐบาลสืบทอดอำนาจ จากที่พยายามประคับประคองสถานการณ์และฟอกตัวให้เป็นรัฐนาวาที่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ มีจังหวะการระบาดของโควิด-19 ซี่งถือเป็นวิกฤติไปทั่วโลก ถือเป็นโอกาสที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและคณะจะได้แสดงฝีมือ ซึ่งในแง่ของการป้องกันโรคได้รับเสียงชื่นชมอื้ออึง แต่การดูแลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนกลับถูกด่าจมหูเช่นกัน
อรชุน
หรือจะจริงอย่างโบราณว่า คนเราในยามดวงตกมักจะมีอะไรประดังประเดเข้ามาอย่างคาดไม่ถึง เหมือนอย่างกรณีรัฐบาลสืบทอดอำนาจ จากที่พยายามประคับประคองสถานการณ์และฟอกตัวให้เป็นรัฐนาวาที่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ มีจังหวะการระบาดของโควิด-19 ซี่งถือเป็นวิกฤติไปทั่วโลก ถือเป็นโอกาสที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและคณะจะได้แสดงฝีมือ ซึ่งในแง่ของการป้องกันโรคได้รับเสียงชื่นชมอื้ออึง แต่การดูแลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนกลับถูกด่าจมหูเช่นกัน
ล่าสุด ก็มีประเด็นเมื่อกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์หรือพีต้า ออกมาเปิดโปงเผยแพร่คลิปว่าประเทศไทยมีการใช้แรงงานลิงเก็บลูกมะพร้าวในเชิงพาณิชย์ เป็นการทารุณกรรมสัตว์ ทันทีทันใด ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างค้าปลีก 6 แห่งในประเทศอังกฤษที่นำผลิตภัณฑ์มะพร้าวไทยไปวางขาย ได้ประกาศว่าจะนำผลิตภัณฑ์มะพร้าวไทยออกจากชั้นวางสินค้า เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีดังกล่าว ร้อนถึง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ต้องรีบชี้แจงเป็นการด่วน
แต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผล ส่วนการที่ผู้คนในโลกโซเชียลของบ้านเราไปตอบโต้ทางฝ่ายโน้นด้วยการกล่าวหากลับ คงไม่เกิดประโยชน์และไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีคลังจึงแนะนำว่า วิธีต่อสู้ที่ถูกต้องคือรัฐบาลต้องยอมรับว่า จำเป็นต้องปรับปรุงวิธีการเลี้ยงดูลิงเป็นการด่วน เลี้ยงอย่างไร จะทำให้ลิงอยู่กับคนได้อย่างมีมนุษยธรรม ถ้าจะให้ดีควรปรึกษาองค์กรระดับสากลหาทางออกสายกลาง แต่ถ้าไม่มีวิธีปรับปรุงได้จริงก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องมืออื่นถึงแม้จะแพงขึ้นก็ตาม
ถูกต้องแล้วที่อู๊ดด้าจะเชิญพีต้ามารับฟังข้อเท็จจริง พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เข้าใจตรงกัน ไม่จำเป็นต้องแสดงออกในการต่อต้านและไม่ต้องไปแสวงหาว่ามีใครอยู่เบื้องหลังทำให้องค์กรแห่งนี้ออกมาประณามประเทศไทย อย่าลืมเป็นอันขาดว่าคนที่โพสต์คลิปจนนำไปสู่การแบนสินค้ามะพร้าวของไทยนั้นก็คือ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีผู้ดีนั่นเอง ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่ที่ว่าจะใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาหรือจะใช้เรื่องนี้ไปปลุกกระแสคลั่งชาติเหมือนอย่างที่บางคน บางพวกถนัดเหมือนช่วงที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับพวกที่นำเอาท่านผู้นำไปเปรีบเปรยกับสัตว์บางชนิด ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรทำเหมือนกัน การกระทำเหล่านี้ได้เพียงแค่ความสะใจ แต่หาได้เกิดประโยชน์โภคผลใด ๆ ต่อชาติบ้านเมืองไม่ มีผลก็แต่ในทางการเมืองของพวกที่เลือกถือหางฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น ไม่ต่างกันกับกรณีของกลุ่มก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ที่วันนี้ยังคงถูกตามล่าตามล้าง หาเหตุเพื่อที่จะทำลายกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ยิ่งกระแสของซูเปอร์โพลพุ่งกระฉูดยิ่งตกเป็นเป้าหนักขึ้นไปอีก
ล่าสุด ถูกรุมทึ้งทั้งในส่วนของกลุ่มก้าวหน้าประเด็นเรื่องเงินบริจาคเมย์เดย์-เมย์เดย์ จนทางกลุ่มต้องออกแถลงการณ์ชี้แจง ชัดเจนว่าเป็นความพยายามของพวกจ้องทำลาย พิสูจน์ได้จากเม็ดเงินที่บริจาคเข้าไปบัญชีของกลุ่มก่อนที่จะมีการสั่งปิด เป็นคนในเครือข่ายโจมตีนี่เอง เป็นเช่นนั้นจริงต้องบอกว่านี่คือการเมืองสกปรก โสมม ไม่เหมาะสมกับพวกที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อปฏิรูปการเมือง ซึ่งความจริงมันก็คือวาทกรรมลวงโลกเพื่อใช้อุ้มสมให้เผด็จการสืบทอดอำนาจดูดีเท่านั้น
ไม่ต่างกันกับความพยายามของลิ่วล้อเผด็จการที่ตัวเองก็สันหลังหวะ พยายามจะทำให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรกันนักหนา ในเมื่อก็รู้กันอยู่ว่ากรรมาธิการทั้งหลายนั้นไม่สามารถที่จะทำให้กฎหมายฉบับนี้มีปัญหาได้ มิหนำซ้ำ ยังเป็นช่องทางของการทำมาหากินของนักเลือกตั้งไม่ว่าจะจากฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม
ดังนั้น มันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงออกถึงความรังเกียจอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ขนาดนั้น ข้ออ้างที่คนมองออกมีเพียงอย่างเดียวคือ ความอิจฉา เกรงว่าจะทำให้พรรคที่อดีตลูกพรรคของธนาธรไปสังกัดติดลมบน และส่งผลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งก็เห็นได้ชัดว่ามีการยึดยื้อกันออกไปให้นานที่สุด ยิ่งกระแสของกลุ่มก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลแรงมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสของการที่จะได้เห็นการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นในเร็ววันนั้นยิ่งริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ
เหมือนอย่างที่ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกต คะแนนนิยมของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐบาลตกต่ำลงเรื่อย ๆ เข้าข่ายเผชิญวิกฤติศรัทธาขยายลุกลามไปทั่วทั้งประเทศ แต่ในสนามการเลือกตั้งซ่อมพรรคสืบทอดอำนาจกลับสามารถพลิกชนะได้ มันจึงช่วยไม่ได้ที่จะทำให้คนเกิดข้อสงสัยอาจมีวิธีการบริหารจัดการให้ได้มาซึ่งคะแนนด้วยวิธีพิเศษ มีการใช้อำนาจรัฐ การใช้ทรัพยากรของรัฐ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่
แน่นอนว่าเมื่อไปถามกับฝ่ายกุมอำนาจ คำตอบที่ได้รับคือ เป็นเรื่องขององค์กรที่กำกับดูแลและจัดการเลือกตั้งอย่างกกต. พอออกลูกนี้แทนที่จะสร้างความน่าเชื่อถือและศรัทธาต่อองค์กรที่ถูกพูดถึง กลับทำให้เป็นไปในทิศทางตรงข้าม ไม่ใช่เพราะผลจากการกระทำของฝ่ายสืบทอดอำนาจ หากแต่เป็นคนที่เข้ามาเป็นผู้นำในองค์กรแห่งนี้เอง ที่นอกจากไม่ได้เรียกศรัทธาขององค์กรกลับคืนมาแล้ว ยังกระทืบซ้ำทำให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงไปอีก นับตั้งแต่แบ่งเขตเลือกตั้งจนถึงการตัดสินใจเรื่องส.ส.บัญชีรายชื่อที่ทำให้เกิดส.ส.เอื้ออาทร
อย่างที่รับรู้กันเป็นสากลอยู่แล้ว ไม่มีทางที่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเผด็จการจะเข้ามาสร้างประชาธิปไตยที่สวยงามและสมบูรณ์ อีกหนึ่งที่จะเป็นบทพิสูจน์ภาวะผู้นำของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่อ้างมาตลอดว่าการตัดสินใจปรับครม.อยู่ที่ตัวเองแต่เพียงผู้เดียว นั่นก็คือ เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ประกาศขอสานงานต่อ แต่อดีตพรรคต้นสังกัดก็เตรียมคนเปลี่ยนไว้เรียบร้อยแล้วภายใต้คำประกาศิตของคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ
ตำแหน่งนี้ตำแหน่งเดียวจะเป็นการฉายภาพของการเตรียมการรัฐประหารของคสช.และการสืบทอดอำนาจได้ทั้งหมด เพราะนี่จะเป็นบทพิสูจน์ว่าความสนิทชิดเชื้อและไว้วางใจกันระหว่างผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกับเทพเทือกนั้นเป็นอย่างไร เมื่อมีการเปลี่ยนคนและคนของอดีตผู้นำม็อบชัตดาวน์ประเทศที่อ้างว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกได้อยู่กระทรวงเดิม ก็แสดงว่าบารมีของคน ๆ นี้ไม่ธรรมดา ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์ของท่านผู้นำที่เป็นอยู่ในเวลานี้