ศัลยกรรมหุ้น EFORL

ด้วยประโยคติดหูที่ว่า “เพราะความสวยรอไม่ได้” ทำให้ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ที่จัดตั้งโดยนพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช (อดีตพนักงานของ “นิติพลคลินิก”) เป็นที่เลื่องลือและเฟื่องฟูสุดขีด ช่วงปี 2556-2557 รายล้อมด้วยพรีเซ็นเตอร์ดารา จนกลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกจุดประกายธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามไทย และทำให้รายได้และกำไรพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว


พลวัตปี 2020 : สุภชัย ปกป้อง

ด้วยประโยคติดหูที่ว่า “เพราะความสวยรอไม่ได้” ทำให้ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ที่จัดตั้งโดยนพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช (อดีตพนักงานของ “นิติพลคลินิก”) เป็นที่เลื่องลือและเฟื่องฟูสุดขีด ช่วงปี 2556-2557 รายล้อมด้วยพรีเซ็นเตอร์ดารา จนกลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกจุดประกายธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามไทย และทำให้รายได้และกำไรพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว

ทำให้ยุคนั้นชื่อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ถูกปักหมุดเป็นเป้าหมายแรกของคนอยากสวยที่จะต้องเลือกใช้บริการ..!

จากความฟีเว่อร์ของ “วุฒิศักดิ์คลินิก” จึงเป็นแรงดึงดูดกลุ่มทุนต่าง ๆ ที่ต้องการเข้ามาแสวงผลประโยชน์ร่วมจากความฟีเว่อร์ดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่ยอมทุ่มเงินกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นวุฒิศักดิ์คลินิก 60% จากผู้ถือหุ้นเดิมช่วงปี 2557 พร้อมปรับนโยบายใหม่ เพื่อเร่งนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นั่นจึงทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไรหุ้น EFORL ด้วยความคาดหวังว่า EFORL จะมีกำไรเติบโตโดดเด่นในอนาคต จากการ Synergy ธุรกิจเครื่องมือแพทย์กับธุรกิจเสริมความงาม และมูลค่าเพิ่มที่ได้จากการนำ “วุฒิศักดิ์คลินิก” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทางด้วย

แต่หลังจากเข้าซื้อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” กลับไม่ได้เติบโตเหมือนดั่งคิดกันเอาไว้มิหนำซ้ำยังพลิกขาดทุน โดยปี 2556 รายได้ 3,498 ล้านบาท กำไรสุทธิ 414 ล้านบาท ปี 2557 รายได้ 2,922 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ปี 2558 รายได้ 2,584 ล้านบาท กำไรสุทธิ 149 ล้านบาท ปี 2559 รายได้ 1,623 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 528 ล้านบาท ปี 2560 รายได้ 481 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 664 ล้านบาท

ด้วยความที่เทหมดหน้าตัก 3,500 ล้านบาท ทุ่มให้กับ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ทำให้ EFORL มีผลประกอบการย่ำแย่ จนขาดทุนสุทธินับตั้งแต่ ปี 2559 และสะกดคำว่า “กำไร” ไม่เป็นมาจนถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน EFORL มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร “วุฒิศักดิ์คลินิก” อยู่หลายครั้งและมีชื่อ “ศ.ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ สู่การเป็นคลินิกความงามครบวงจร Wuttisak Wellness World ในปี 2560 และดึง “นพ.วุฒิศักดิ์” ผู้ก่อตั้งกลับมากอบกู้สถานการณ์อีกครั้ง

จากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารอีกหลายครั้ง แต่สถานการณ์ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ไม่ดีขึ้นเลย จนต้นปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการชุดใหม่ และเมื่อประเมินสถานภาพกิจการแล้ว ไปไม่รอดแน่..!! หนี้สินล้นพ้นตัว จึงต้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา

ส่วน EFORL มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ด้วยการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ราคาหุ้นละ 0.04 บาท มูลค่าระดมทุน 644 ล้านบาทขายให้นักลงทุน 5 ราย โดยมีชื่อวิชัย ทองแตง ได้รับจัดสรรหุ้นสูงสุด 7,308 ล้านหุ้น ส่งผลให้ “วิชัย” กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ EFORL สัดส่วน 22.68%

บทเรียนจากการ “ศัลยกรรมทางธุรกิจ” ที่ผิดพลาดของ EFORL จากการซื้อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” สร้างแผลเป็นให้กับนักลงทุนไม่น้อย จึงน่าสนใจว่าวิชัย ทองแตง จะเข้ามาช่วยศัลยกรรมหุ้น EFORL ให้กลับมาสวยจรัสตาได้อีกครั้งหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้แย่ไปกว่านี้..!!

เรื่องศัลยกรรมธุรกิจไม่รู้..แต่เรื่องศัลยกรรมหุ้น EFORL เดี๋ยวคงจะได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้…!!

Back to top button