ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ (15 ก.ค.) “อุตตม สาวนายน” รมว.คลัง

เขาออกมากล่าวยอมรับแล้วว่า วันนี้ (16 ก.ค.) จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อ นายกรัฐมนตรี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว

สอดรับกับข่าวลือที่แพร่สะพัดมาตลอดทั้งวันว่ากลุ่ม 4 กุมารที่ประกอบด้วย

1.สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน

2.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

3.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

และ 4.นายอุตตม

ทั้งหมดจะมีการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 8.00 น.(รอยืนยันอีกครั้ง)

ไม่เพียงเท่านั้น “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้วโดยอ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ

เห็นว่า มีการแจ้งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว

นายกฯ ไม่ได้ทักท้วง เพียงแต่ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ด้วยดีมาโดยตลอด

สรุป…เรื่องของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

กับ 4 กุมาร และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะจบลงเพียงเท่านี้

ส่วนทั้งหมดจะไปทำอะไรต่อนั้น ยังทำงานการเมืองอีกหรือไม่ ไปตั้งพรรคใหม่ กลับไปเป็นนักวิชาการ นักธุรกิจ หรือกลับบ้านพักผ่อนเลี้ยงหลาน ฯลฯ

คงต้องมารอฟังการแถลงข่าวอีกครั้ง

แต่เชื่อว่า ประเด็นที่ประชาชน และนักลงทุนเฝ้าติดตามคือ “ทีมเศรษฐกิจ” ชุดใหม่ จะมีใครบ้างล่ะ

เรื่องนี้ก่อนหน้านี้ มีข่าวแพร่สะพัดออกมาแล้วล่ะ

เพราะมีการปรากฏชื่อ เช่น ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท.

ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK และนายกสมาคมธนาคารไทย

ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต CEO ปตท. (PTT) และอดีต รมช.คมนาคม

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีต CEO บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC

เดิมนั้นมีกระแสข่าวว่า  “ปรีดี ดาวฉาย” จะนั่งเป็นรองนายกฯ เศรษฐกิจ แต่วานนี้ข่าวที่ออกมาบอกว่า อาจจะไปนั่งเป็น รมว.คลังแทนนายอุตตม ที่ลาออกไป

หรือว่า อาจจะนั่งเก้าอี้ทั้งรองนายกฯ เศรษฐกิจ และเป็นขุนคลัง ควบคู่ไปด้วยก็ได้

ด้าน ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ค่อนข้างแบเบอร์ว่า จะนั่งเป็น รมว.พลังงาน แน่นอน

ส่วนคนอื่น ๆ ที่มีรายชื่อออกมา จะตรงหรือไม่ตรง ต้องมาติดตามกันต่อไป

ว่ากันว่า ตำแหน่งที่ว่านี้ เป็นโควตาของนายกรัฐมนตรี ที่จะนำคนนอก (ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง) เข้ามาบริหาร

ซึ่งก็มีมาทุกรัฐบาลนั่นแหละ

ถามว่ารายชื่อที่ปรากฏออกมาครั้งนี้ ในมุมมองนักลงทุนว่าอย่างไร

เท่าที่สอบถามมา ค่อนข้างให้การตอบรับดี

เพราะนอกจากจะช่วยทำให้การเมือง “นิ่ง” (ใช่หรือเปล่า) แล้ว

อีกทางหนึ่ง อาจเห็นนโยบายใหม่ ๆ ด้านฟื้นฟูเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม

เพราะแน่นอนล่ะ การเปลี่ยนแปลงบุคคล

ทุกคนก็หวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายจะต้องออกมาดูดีกว่าเดิม

การบริหารเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤต แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนต่างทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีอะไรง่าย

ตอนนี้ทุกคนต่างจึงกำลังเฝ้ารอ

การพิสูจน์จากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

ส่วนตลาดหุ้น น่าจะดีดรับ คึกคักบ้างเฉพาะในช่วงแรก คล้าย ๆ กับข้าวใหม่ปลามัน

ต่อจากนั้น ก็กลับมาดูที่พื้นฐานกันเหมือนเดิม