เฮีย ป. ประชันกึ๋น เจ๊ ป.
*วันนี้ต้องขอชี้แจงคำจั่วหัวให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าไม่ได้หมายถึงให้ป่อเต็กตึ๊งมาเก็บศพแต่อย่างใด เพราะมันดูรุนแรงเกินไปสำหรับคนที่กำลังจะขึ้นมาใหญ่ในภาวะที่ประเทศไทยต้องการมืออาชีพ เลยอยากให้คนเหล่านั้นแสดงฝีไม้ลายมือให้เห็นสักนิดหน่อย จากนั้นถึงจะพิจารณาว่าสมควรที่จะเรียกใช้บริการรถมูลนิธิดังกล่าวหรือไม่! จึงอยากให้บรรดาขาเผือกติดตามผลงานของ “ตั่วเฮีย” กับ “ตั่วเจ้” ด้วยนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้ต้องขอชี้แจงคำจั่วหัวให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าไม่ได้หมายถึงให้ป่อเต็กตึ๊งมาเก็บศพแต่อย่างใด เพราะมันดูรุนแรงเกินไปสำหรับคนที่กำลังจะขึ้นมาใหญ่ในภาวะที่ประเทศไทยต้องการมืออาชีพ เลยอยากให้คนเหล่านั้นแสดงฝีไม้ลายมือให้เห็นสักนิดหน่อย จากนั้นถึงจะพิจารณาว่าสมควรที่จะเรียกใช้บริการรถมูลนิธิดังกล่าวหรือไม่! จึงอยากให้บรรดาขาเผือกติดตามผลงานของ “ตั่วเฮีย” กับ “ตั่วเจ้” ด้วยนะคะ
*ก่อนที่จะเริ่มแส่เรื่องชาวบ้านอย่างเป็นจริงเป็นจัง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามองการเคลื่อนไหวของดัชนีสักนิดหนึ่ง เพราะอาการเหวี่ยงตัวแรงทั้งในแดนบวกแดนลบ เสมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าเจอทางตัน! จึงเห็นการเคลื่อนตัวออกด้านข้างที่ฉวัดเฉวียนถี่ขึ้น และส่อเค้าจะไหลลงไปหาจุดต่ำสุดครั้งก่อนที่บริเวณ 1,325 จุดอีกด้วยแบบนี้ คุณ ๆ คิดว่าการยืนปิดที่ 1,347.86 จุด ลบไป 6.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท ใช่บริเวณที่ต้องเข้าไปเก็บหุ้นไหม ? ลองไปคิดเป็นการบ้านะคะ
*วกกลับมาดูเรื่องตำแหน่งแห่งหนของ เฮีย ป. ที่กำลังจะขึ้นมานั่งเก้าอี้ขุนคลังกันสักหน่อย หลังมีการส่งเทียบเชิญให้เข้ามาร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งแมงลือก็เม้าท์กันให้แซ่ดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าตัวไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะเข้ามาก็มีแต่เจ็บตัวเปล่า ๆ แถมเมื่อทำผลงานออกมาดีก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าทำผลงานออกมาไม่เป็นไปตามเป้าก็ถูกกระทืบจมดินแน่ ๆ เจ้าค่ะ
*ในขณะเดียวกันถ้ามองในมุมผลกระทบที่เกิดจากเอสเอ็มอีกำลังตกที่นั่งลำบาก และส่อเค้าจะกลายเป็นเอ็นพีแอลเยอะแยะไปหมด ก็มีความจำเป็นที่นายแบงก์สีเขียวต้องกระโดดลงมาเล่นเกมนี้แบบเต็มตัว เพราะมันเป็นปัญหาเดียวกับที่ธนาคารกำลังแก้ไขอยู่ (แบงก์นี้เขามีลูกค้าเอสเอ็มอีเยอะที่สุด) จึงเชื่อกันว่าการเอาคนที่ “เห็นปัญหา เข้าใจปัญหา” มาสะสางสิ่งที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้ win-win กันทุกฝ่ายนะจ๊ะ
*ประกอบกับเสียงร่ำลือหนาหูว่า “เสี่ยปั้น” คือคนผลักดันให้นายแบงก์ออกไปอยู่แนวหน้า เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของลูกน้องคนโปรด ขณะที่ตัวแกเองจะผันตัวไปเป็นกุนซือทางลับให้อีกทีหนึ่ง จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ชาวเผือกสนใจมากเหลือเกินว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นจริงเหมือนที่เม้าท์ไหม ? “โมนิก้า” เลยอยากให้ชาวหุ้นติดตามชมเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะที่เม้าท์มาทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่เขาพูดต่อ ๆ กันมาเจ้าค่ะ
*ส่วนที่ไม่ต้องไปหาต้นตอการเม้าท์ให้เสียเวลาก็คือ ก๊วนสามมิตรเคยประกาศกร้าวไว้ตั้งแต่ตอนอกหักครั้งก่อนว่า พี่จองเก้าอี้นี้! ยิ่งทำให้สถานการณ์ตอนนี้ดูสับสนอลหม่านไปหมด ขณะเดียวกันก็ไม่พบความเคลื่อนไหวของก๊วนดังกล่าวจะสร้างปัญหาแต่อย่างใด “โมนิก้า” ถึงมองข่าวโคมลอยที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันน่าจะมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ข้างหลังแน่ ๆ และในไม่ช้าก็คงเผยความจริงออกมาเองพะย่ะค่ะ
*เช่นเดียวกับเรื่องเม้าท์สนุกสนานที่เกิดขึ้นกับ กบข. ภายหลังจากได้ เจ๊ ป. (ปง หรือ แป๊ด อะไรเทือกนี้แหละ) เข้ามากุมบังเหียน ก็ก่อให้เกิดคำถามตามหลังมาในทันทีว่า ฝีมือถึงขั้น ? เพราะที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจนทำให้คนที่อยู่วงนอกรู้สึกอุ่นใจเลยสักอย่าง “โมนิก้า” จึงขอเข้ามาแจมเรื่องนี้กับเขาอีกคน หลังแอบเงี่ยหูฟังคำนินทาที่มีต่อตั่วเจ้นานหลายชั่วโมง เลยมองโอกาสนี้เหมาะสำหรับแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินมาเจ้าค่ะ
*ประเด็นที่น่าสนใจของ เจ๊ ป. ที่เดี๊ยนแอบได้ยินมาคือ ความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเก้าแสนล้านบาทได้ไหม ? เพราะผู้บริหารคนก่อน ๆ ที่เคยมานั่งในตำแหน่งนี้ ล้วนมาจากสายการเงินที่แข็งโคตร ๆ กันทั้งนั้น หรือบางคนในยุคก่อน ๆ ก็มาจากบริษัทใหญ่ระดับประเทศเช่นกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดดราม่าตามหลังมาทันทีนับตั้งแต่บรรดาขาเผือกรู้ผลออกมาอย่างเป็นทางการพะย่ะค่ะ
*งานนี้เลยทำให้หลายคนรู้สึกเป็นห่วงกับสิ่งที่ กบข. กำลังจะเผชิญในไม่ช้า เพราะเจ๊ดันมาในช่วงที่ทุกคนต้องการ “มือโปร” มากกว่า “มือสมัครเล่น” แถมในอดีตเคยเห็นผลงานของหน่วยงานแห่งนี้ทรุดฮวบลงมาแล้ว “โมนิก้า” คงพูดได้แค่ว่าต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป เนื่องจากเดี๊ยนก็ไม่เคยเห็นฝีมือ (เห็นแต่ฝีปาก) ของคุณเธอเหมือนกัน..อิอิอิ
*สรุปว่า ในไม่ช้าก็คงได้เห็นกันว่า ระหว่าง “เฮีย ป.” กับ “เจ๊ ป.” ใครมีกึ๋น!