เลี่ยงหุ้นแบงก์
แบงก์พาณิชย์เริ่มแจ้งผลประกอบการกันออกมาแล้ว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
แบงก์พาณิชย์เริ่มแจ้งผลประกอบการกันออกมาแล้ว
มีประเด็นที่น่าสนใจค่อนข้างมากเลยล่ะ
นั่นคือ แบงก์ที่แจ้งงบออกมา หรือเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน เช่น KBANK TISCO TMB และ KKP
ทั้งหมดนี้ต่างมีการตั้งสำรองหนี้ฯ แบบจัดหนัก
หรือตั้งการ์ดกันไว้แบบ “แน่นเปรี๊ยะ”
เดิมนั้น บรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดกันไว้ว่า บรรดาแบงก์ต่าง ๆ ไม่น่าจะตั้งสำรองที่สูงไปจากปกติมากนัก
ทว่า นายแบงก์ต่างทำในสิ่งที่อยู่นอกเหนือคาดการณ์
และทำให้กำไรสุทธิต่างพากันร่วงลงอย่างหนัก เช่น กสิกรไทย หรือ KBANK กำไรเหลือเพียง 2.1 พันล้านบาท ลดลงถึง 78% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้
ส่วน TISCO เอง มีการตั้งสำรองฯ สูงเช่นกัน
พบว่า TISCO ตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น 535% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ TFRS 9 โดย “ไม่ผ่อนปรนจากมาตรการของ ธปท.”
แบงก์ทีเอ็มบี มีการตั้งสำรองฯ ในระดับสูงด้วยเช่นกัน
แต่กำไรยังออกมาสวยงามได้อยู่กว่า 3.1 พันล้านบาท
ซึ่งนั่นเป็นผลบวกจากการควบรวมงบกับธนาคารธนชาต หรือ TBANK
เมื่อวานนี้ จากข่าวที่แจ้งมา ทางธนาคารไทยพาณิชย์ SCB จะแจ้งงบการเงินไตรมาส 2 ด้วย
แต่รอจนถึง 2 ทุ่มเลยยังไม่ทราบตัวเลข
แต่เท่าที่คุยกับนักวิเคราะห์ มีการประเมินในเบื้องต้น พร้อมกับคาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ SCB น่าจะใช้วิธีการ “ตั้งการ์ดแน่น” เช่นเดียวกับ KBANK
ดังนั้น กำไรจึงอาจจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน
เมื่อวานนี้หลังจาก KBANK แจ้งงบการเงินออกมา
ทำให้หุ้นในกลุ่มแบงก์ต่างพากันร่วงระนาว จากเหตุผลเรื่องการตั้งสำรองฯ ระดับสูงนั่นแหละ
วันนี้ จะมีแบงก์ขนาดใหญ่แจ้งงบเพิ่ม เช่น BBL KTB และ BAY
สัปดาห์ก่อนหน้านี้ “ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL ได้บอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า ธนาคารจะตั้งสำรองฯ ตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9
เหตุเพื่อรองรับเศรษฐกิจชะลอตัว
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
แต่ก็ยังสร้างมั่นใจว่า ตัวเลขหนี้เสียยังอยู่ในระดับที่แบงก์ควบคุมได้
ส่วนไตรมาสถัด ๆ ไป ก็จะยังตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น และอาจรวมไปถึงการสำรองหนี้เสียในช่วงปีหน้าด้วย
สำหรับ BBL หากดูจากตัวเลข BIS Ratio และ Coverage Ratio ที่อยู่ระดับสูง (มาก)
ยังอาจจะพออุ่นใจได้บ้างว่า BBL แม้จะตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น
แต่ไม่น่าจะสูง(ลิ่ว) เหมือนกับของ KBANK และแบงก์แห่งอื่น ๆ
การตั้งสำรองฯ ที่สูงของกลุ่มแบงก์ แบบเหนือคาดการณ์ และทำให้กำไรหุ้นแบงก์ร่วงค่อนข้างหนัก
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จึงแนะนำให้ “เลี่ยงหุ้นแบงก์” ไปก่อน
ราคาหุ้นที่ลงมา แม้จะค่อนข้างมากแล้ว
แต่ยังอาจจะลงมาจากปัจจุบันได้อีก
นักวิเคราะห์บางคน บอกว่า หากสถานการณ์ยังเลวร้ายลงอีก ก็เชื่อว่าไตรมาส 3/2563 งบแบงก์อาจจะแย่กว่าไตรมาส 2/2563
ส่วนผลประกอบการจะออกมาแย่ จนทำให้แบงก์แกว่งหรือไม่นั้น
ประเด็นนี้ ทั้งนักวิเคราะห์ ผู้ว่า ธปท. ต่างฟันธง พร้อมกันว่า “ไม่แน่นอน” เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับแบงก์ในตอนนี้ กับปี 2540 นั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ปัจจุบัน แบงก์มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเข้มแข็งมาก
และยังควบคุมหนี้เสียได้อยู่ในระดับที่ดี
ไม่ต้องห่วง
แต่หากจะซื้อหุ้นแบงก์เข้าพอร์ตจริง ๆ ให้รออีกสักพัก ไม่ต้องใจร้อน