ดับเบิลท็อป..ย่อตัวลง

*หากประเมินโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยจากปัจจัยพื้นฐานเป็นฐานที่ตั้ง “โมนิก้า” กล้าเม้าท์ได้ทันทีว่า ถึงเวลาที่หุ้นไทยต้องม้วนตัวลงอีกรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ ยังกลิ้งไปกลิ้งมา จนไม่สามารถนำมาเป็นตัวขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง เดี๊ยนเลยรู้สึกทึ่งมาก ๆ ที่เห็นตลาดหุ้นไทยประคองตัวในระดับสูงได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองพะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากประเมินโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยจากปัจจัยพื้นฐานเป็นฐานที่ตั้ง “โมนิก้า” กล้าเม้าท์ได้ทันทีว่า ถึงเวลาที่หุ้นไทยต้องม้วนตัวลงอีกรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ ยังกลิ้งไปกลิ้งมา จนไม่สามารถนำมาเป็นตัวขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง เดี๊ยนเลยรู้สึกทึ่งมาก ๆ ที่เห็นตลาดหุ้นไทยประคองตัวในระดับสูงได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองพะยะค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นดัชนีกำลังวิ่งขึ้นมาทำ “ดับเบิลท็อป” ที่บริเวณ 1,390 จุด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะย่อตัวลงค่อนข้างสูง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นอ่านเกมตรงนี้ให้ละเอียดหน่อย เพราะเมื่อดูองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ มันมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อว่า โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะไปต่อ..ไม่ง่าย จึงน่าจะเห็นแรงขายทำกำไรออกมาอีกระลอกนะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาก่อนจะปิดฉากด้วยการยืนที่ระดับ 1,357.04 จุด ลบไป 19.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.38 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นรูปแบบเดิมที่เคยเกิดขึ้นในช่วง ปลาย ส.ค. ต่อเนื่องถึง ต้น ก.ค. โดยดัชนีมีการขยับตัวไปมาในกรอบ 1,320-1,390 “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่เห็นอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของหุ้นบางตัวที่ก่อนหน้านี้ขึ้นแรง จึงอยากให้นักเล่นมองเหตุการณ์ไปทีละสเต็ปนะจ๊ะ

*คล้ายกับสถานการณ์พลิกผันที่เกิดกับหุ้นถุงมือยาง STGT หลังมีข่าวค้นพบวัคซีนป้องกันไวรัสมรณะ ราคาหุ้นก็ร่วงผล็อยลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 74.25 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณ 78 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.13 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้ทุกคนมองกำไรปีหน้าอาจไม่โตเหมือนปีนี้ และคล้ายจะเป็นการส่งสัญญาณหมดรอบชั่วคราวนะคะ

*เมื่อตัวลูกไม่เปรี้ยงเหมือนที่คาดหวัง ตัวแม่เลยมีเอฟเฟ็กต์จากเรื่องดังกล่าวทันที “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้น STA โดนขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนในที่สุดก็ลงมาปิดบริเวณ 25 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 11.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.22 พันล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนคงต้องกล่าวคำว่า ซาโยนาระเพื่อเป็นการบอกลา เพราะมันถึงเวลาที่กองทุนต้องโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่นแล้วนะซี

*อ่วมอรทัยเกินจะบรรยายคงเป็นแบงก์ดอกบัว BBL ถูกขายหนักพร้อมด้วยความกังวลหนี้เสียปูดไม่หยุดหย่อน ผนวกกับมาตรการต่าง ๆ สำหรับช่วยอุ้มลูกหนี้ก็หมดโปรพอดี เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 102.50 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.64 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 เดือน มันใช่เวลาที่ต้องเข้าไปช้อนหุ้นไหมจ๊ะ

*ส่วนรายที่มาในแนวสุดจัดคงชี้เป้าไปที่ ICHI หลังพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 11.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 478 ล้านบาท พร้อมกับทำนิวไฮในรอบ 2 ปี 5 เดือนแบบสบาย ๆ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องประเมินข้อมูลหลายด้านด้วยตนเอง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีแต่บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า หุ้นตัวนี้ขึ้นจากปัจจัยอะไรเจ้าค่ะ

*คล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้น JKN ท่ามกลางสถานการณ์กำไรลดทั่วแห่งหน ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้บางคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.15 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรมากไปกว่านี้ เดี๋ยวเขาจะหาว่า จุ้นจ้านมากเกินไป ! และทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลองไปเสียทุกเรื่องไงล่ะคะ

*สำหรับหุ้นที่ “โมนิก้า” สามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ คงเทน้ำหนักไปยังหุ้นไฟฟ้า TPCH เพื่อชี้ให้เห็นการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.10 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 146 ล้านบาท มันมาจากพื้นฐานของหุ้นเป็นแรงหนุนสำคัญ ผสานกับฐานเก่าที่เคยเคาะขวาอยู่แถว 17-18 บาท เดี๊ยนเลยเชื่อว่า หุ้นน่าจะมีโอกาสไปต่อสวย ๆ เพราะวันนี้เทรดบนค่า P/E 15 เท่าเองจ้า !

Back to top button