ALT อดเปรี้ยวได้กินหวาน
ครั้งหนึ่ง ในช่วง 2 ปีแรกนับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ หุ้นบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เป็นหุ้นลูกรักของใครต่อใครหลายคน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา หมายถึง 3 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นหุ้น “ลูกล้างผลาญ” ที่หลายคนไม่อยากเอ่ยถึง
พลวัตปี 2020 : วิษณุ โชลิตกุล
ครั้งหนึ่ง ในช่วง 2 ปีแรกนับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ หุ้นบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เป็นหุ้นลูกรักของใครต่อใครหลายคน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา หมายถึง 3 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นหุ้น “ลูกล้างผลาญ” ที่หลายคนไม่อยากเอ่ยถึง
ท่ามกลางความเสื่อมศรัทธาของนักลงทุนรายย่อย ที่มองเห็นกำไรสะสมของ ALT ร่อยหรอลงจนถึงขั้นติดลบ คุณอ๋อย หรือ นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ ก็ยังคงเชื่อมั่นในเส้นทางเดิมของตนเอง ว่าไม่ได้ผิดพลาด แต่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง
งบการเงินของบริษัทประสบกับการขาดทุนสุทธิมาตลอด 2 ปี คือ การรับรู้ค่าเสื่อมเป็นจำนวนมากจากการลงทุนหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เช่น โครงการสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ให้เช่าตามแนวเสาโทรคมนาคมตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ของไทย และการลงทุนโครงข่ายใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (High Speed Fiber Optic) ให้กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) เช่าใช้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในเส้นทางพหลโยธิน, สุขุมวิท และพญาไท
อีกทั้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือได้ชะลอแผนการลงทุนขยายโครงข่ายไปหลายโครงการ เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าใบอนุญาตใหม่ที่ประมูลได้เป็นหลัก ส่งผลให้งานรับเหมาก่อสร้างฐานและการขายสินค้าโทรคมนาคมชะลอ
เหตุผล ALT มีความอดทนยอมทุ่มเททั้งที่มีอุปสรรคมากมาย เกิดจากพวกเขามีมุมมองว่า ท้ายที่สุดบรรดาโอเปอเรเตอร์ด้านโทรคมนาคมจะต้องถูกแรงกดดันให้ต้องเลิกเป็นเจ้าของโครงข่ายเสียเอง แต่หันมาเช่าใช้จากบรรดาเจ้าของโครงข่าย ตามหลักยุทธศาสตร์ธุรกิจที่มีพลวัตสูง “เช่าดีกว่าครอบครองเอง”
การก้มหน้าก้มตาสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมของ ALT ซึ่งเคยทำให้มีภาระทางการเงินมหาศาล เริ่มพิสูจน์วิสัยทัศน์ของทีมงาน ALT ที่นำโดยคุณอ๋อย เริ่มออกผลบวก เนื่องจากในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้กลุ่มโอเปอเรเตอร์จำเป็นต้องดำเนินการตามนโยบายภาครัฐที่นำสายสื่อสารลงใต้ดิน ทำให้ปรับกลยุทธ์หันมาเช่าใช้สาย Fiber Optic กับบริษัทมากขึ้น เพราะไม่ต้องการลงทุนเอง ส่งผลดีกับผลประกอบการของ ALT สะท้อนจากกำไรในไตรมาส 1/63 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อดีตผู้บริหารกิจการรับออกแบบตกแต่งภายในที่ก้าวข้ามมาสู่ธุรกิจบริการให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคม ได้ตอกย้ำชัดเจนว่าเธอมีวิสัยทัศน์ที่เหมาะเหม็งของการ “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
กำไรในไตรมาสแรกปีนี้ของ ALT อันน่าตื่นเต้นคือคำยืนยันดังกล่าวชนิด ชายอกสามศอกต้องก้มหัวยกนิ้วยอมรับ
กราฟราคาหุ้นในรอบสองเดือนที่ผ่านมาเป็นขาขึ้นยาวนาน จากแรงซื้อหนาแน่นมาตลอดตั้งแต่ต้นปี ส่วนหนึ่งเพราะได้ถูกรองรับด้วยผลประกอบการไตรมาส 1 ที่พลิกมีกำไรเติบโตก้าวกระโดดกว่า 188 ล้านบาทเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อน (ปี 61-62) ขาดทุนสุทธิรวมกันกว่า 400 ล้านบาท ทำให้ ALT กลับมาเป็นเป้าสายตานักลงทุนที่เคยหมางเมินอีกครั้ง พุ่งขึ้นมาโดดเด่นอีกครั้ง
คำอธิบายพร้อมแรงเชียร์ของนักวิเคราะห์หลายสำนัก ที่บอกว่า ALT จะเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์ที่โดดเด่นของปีนี้ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องสามารถล้างขาดทุนสะสมที่คงค้างอยู่เล็กน้อย แล้วกลับมาจ่ายปันผลระลอกใหม่ได้อีกเนื่องจาก ALT เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการและก่อสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมแบบครบวงจร มีโอกาสได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลที่เตรียมผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub)
แรงเชียร์ดังกล่าว ได้จังหวะเหมาะกับการที่ล่าสุด ALTเร่งทำการ “ตีเหล็กยามร้อน” ด้วยการเปิดตัวเครื่องมือทำเงินตัวใหม่ ในยามที่แนวโน้มในไตรมาส 2 ที่ใกล้จะประกาศงบเต็มที ยังส่งสัญญาณเป็นบวกต่อเนื่อง แม้จะเกิดวิกฤติโควิด-19 กระทบต่อหลายอุตสาหกรรมในภาคเศรษฐกิจ แต่ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตกลับเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นประวัติการณ์ อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อหุ้น ALT ในเวลานี้
ปัจจุบัน ALT มีโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่ได้ลงทุนไปแล้วและรอรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ประจำระยะยาว ประกอบด้วย โครงการ Fiber Optic ให้เช่าตามแนวเสาโทรคมนาคมเส้นทางรถไฟฟ้า, เส้นทางด่วน, ทางหลวง และตลอดแนวเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ รวมถึงเสาโทรคมนาคมในสถานีบริการน้ำมันกลุ่มปตท.ทั่วประเทศด้วย
ขณะเดียวกัน ALT ยังมีสถานีฐานส่งผ่านข้อมูลเชื่อมต่อข้ามชายแดน (Cross border) อีก 14 แห่งเพื่อให้กลุ่มโอเปอเรเตอร์สื่อสารเช่าใช้เพื่อส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตเข้าไปใน สปป.ลาว, เมียนมา, กัมพูชา, และมาเลเซีย
การเปิดตัวโครงการล่าสุดที่ ALT เข้าไปร่วมตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ในชื่อ บริษัท สมาร์ทอินฟราเนท จำกัด (SIC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเป็นการปรับโครงสร้างภายในองค์กรให้กระจายเข้าไปให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมในกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตไฟฟ้า รองรับการยกระดับภาคอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในรูปแบบ “สมาร์ทกริด” (Smart Grid) เป็นระบบโครงข่ายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงทั้งโครงข่ายใต้ดินในพื้นที่เส้นทางหลักในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สุขุมวิท พหลโยธิน-ประดิพัทธ์ และพญาไท รวมทั้งในต่างจังหวัดผ่านโครงข่ายตามแนวเส้นทางรถไฟและทางหลวงแผ่นดินสายหลัก ล่าสุดเตรียมรุกธุรกิจ Fiber Space ซึ่งเป็นธุรกิจการให้เช่าโครงข่ายไฟเบอร์ทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
การตีเหล็กยามร้อนนี้ ทางด้านนายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชีของ ALT เปิดเผยว่า คาดว่าจะส่งผลให้ ผลการดำเนินงานปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตที่ดี ทั้งงานก่อสร้างเสาและสถานีฐานรวมถึงงานซ่อมบำรุง เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ โดยบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงไตรภาคีกับ edotco Group Sdn Bhd และบมจ.กสท.โทรคมนาคม (กสท) เพื่อสร้างและ/หรือร่วมลงทุนในเสาและสถานีฐานเพื่อรองรับโครงข่าย 5G
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติเพิ่มเงินลงทุนในบริษัทลูก ซึ่ง ALT ถือหุ้น 100% คือ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด (IG) จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของการให้บริการรับส่งข้อมูล (Internet Bandwidth) ระหว่างประเทศ หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนเข้าสู่ New Normal
เรียกว่าการรุกในยามที่เริ่มลืมตาอ้าปากได้ เป็นจุดที่จะสร้างโมเมนตัมเชิงบวกให้กับ ALT…ภายใต้เงื่อนไขว่าจะเป็นมากกว่าการ “ขายฝัน”
คำพูดของคุณอ๋อยที่บอกว่า บริษัทตั้งเป้าภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเพิ่มเป็น50% ของรายได้ทั้งหมด จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 20% ส่วนรายได้ที่เหลือจะมาจากการรับรู้รายได้งานก่อสร้างสถานีฐานและโครงข่าย Fiber Optic ที่ล่าสุด ALT มีปริมาณงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 60% และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป แม้จะยอมรับว่า งานรับเหมาก่อสร้างโครงข่ายต่างๆ ได้รับมาร์จิ้นที่ดีกว่ารายได้ที่จะเกิดค่าเช่าที่เป็นประเภทรายได้ประจำ จึงเป็นคำมั่นสัญญาที่ต้องพิสูจน์กัน ก่อนที่จะด่วนสรุปง่ายๆว่าALTเทิร์นอะราวด์แล้วหรือไม่
อย่างที่บอกเอาไว้ หุ้นที่ยังมีกำไรสะสมติดลบ แล้วยังไม่สามารถจ่ายปันผลได้ น่าจะยังไม่เข้าข่ายหุ้นเทิร์นอะราวด์จริง