กลับสู่ความเป็นจริง!

* วานนี้เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นภาพการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อได้ว่า หลายอย่างกำลังปรับตัวเข้าหาสมดุลอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าจะตกใจเมื่อเห็นแรงเทขายสาดใส่หุ้นบางตัวแบบไม่ยั้ง เพราะในขณะเดียวกันก็เป็นบททดสอบกำลังใจของผู้เล่นไปในตัว “โมนิก้า” ถึงไม่หวาดหวั่นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อจากนี้ไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* วานนี้เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นภาพการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อได้ว่า หลายอย่างกำลังปรับตัวเข้าหาสมดุลอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าจะตกใจเมื่อเห็นแรงเทขายสาดใส่หุ้นบางตัวแบบไม่ยั้ง เพราะในขณะเดียวกันก็เป็นบททดสอบกำลังใจของผู้เล่นไปในตัว “โมนิก้า” ถึงไม่หวาดหวั่นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อจากนี้ไงล่ะคะ

* เนื่องจากหลายประเด็นมีการรับรู้ไปเยอะพอสมควรแล้ว จึงเหลือแค่ผลกระทบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะตามมาในภายหลัง “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวของหุ้นบางตัวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ น่าจะเป็นโอกาสสำหรับการเล่นรอบเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนคนที่ถนัดลงทุนยาวก็เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับเก็บของเข้าพอร์ตอย่างสบายใจเฉิบ เดี๊ยนเลยเกิดอาการไม่วอร์รี่เหมือนเช่นที่ผ่านมานะจะบอกให้

* ด้วยเหตุนี้ถึงมองการเด้งกลับของดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,337.35 จุด บวกไป 6.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.03 หมื่นล้านบาท กลายเป็นเรื่องปกติที่ไม่ต้องพรรณนาโวหารให้มากความ เพราะมันไม่มีอะไรที่เป็นจุดอันตรายเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว หรือแม้กระทั่งการที่ผู้บริหารออกมายอมรับแบบแมน ๆ ถึงผลงานปี 63 น่าจะทรงตัวเท่ากับปี 62 ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ในภาวะเศรษฐกิจโดนข่าวร้ายรุมล้อมรอบด้านนะตัวเอง

* ยกเว้นในรายของเสือหมอบ AOT โดนบรรดาโบรกเกอร์สหบาทาถล่มยับทุกเม็ดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของ “ลิงอุ้มแตง” ..อุ๊ย.. “เตี้ยอุ้มค่อม” เป็นหลัก เพราะเมื่อมองถึงตัวเลขรายได้ของบริษัทที่ลดฮวบ บวกกับการเอาใจสุดลิ่มทิ่มประตูกลุ่มคิง พาวเวอร์ จึงโดนฝรั่งดาวน์เกรดเหลือแค่ 40 บาทแบบนี้ มันทำให้การยืนปิดที่ 49.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.34 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ลงอีกเพียบนะนายจ๋า !

* เช่นเดียวกับในรายของบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ KTC โดนปัจจัยลบรุมกระหน่ำไม่ว่างเว้น จนราคาหุ้นอ่อนตัวลงมายืนที่ 30 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 214 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องน่าหวาดเสียวสำหรับคนที่คิดจะเข้าไปช้อนซื้อหุ้น เพราะเป็นเจ้าที่ได้รับผลกระทบหนักสุด และจนป่านนี้ก็ยังหาทางแก้มือไม่ได้สักทีแบบนี้..ถอยดีกว่ามั้ง !

* สำหรับทางด้าน SAWAD ทรุดตัวลงมายืนที่ 46.25 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.78 พันล้านบาท ก็มาจากการขึ้น XD ซึ่งเป็นการปันผลหุ้นละ 1.40 บาท ส่วนอีกหนึ่งความกังวลก็มาจากอัตราดอกเบี้ยที่คิดจากลูกค้าลดลง จึงทำให้หุ้นตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากชั่วคราว แต่ด้วยฝีมือบริหารจัดการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง จึงเชื่อได้ว่า ในไม่ช้าหุ้นกลับมาเฉิดฉายอย่างแน่นอนค่ะ

* ส่วนรายที่เห็นกันทนโท่ว่า ผลงานปี 63 ออกมาดี และจะดีขึ้นไปอีกในปี 64 “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JMART ก่อนใครเพื่อนอีกตามเคย เพราะการทรุดตัวลงมาปิดที่ 14 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.02 พันล้านบาท มันเป็นปฏิกิริยาที่โอเวอร์รีแอกต์เกินไปหน่อยสำหรับหุ้นเติบโตสูง จึงน่าจะเป็นโอกาสทองสำหรับนักเล่นที่มองเห็นพัฒนาการของบริษัทมาไกลกว่าเมื่อก่อนเยอะนะจ๊ะ

* เช่นเดียวกับหุ้นลูก SINGER ก็อยู่ในโหมดของการปั๊มกำไรโตระเบิดระเบ้อ ยิ่งมองตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ทำได้เกือบครึ่งของปีก่อน และไม่กระทบจากแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย เพราะเป็นเพียงเจ้าเดียวที่คิดดอกเบี้ยตามเกณฑ์ที่กำหนดใหม่ “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงทันทีว่า ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ผลงานแจ่มแจ๋วแน่นอน ซึ่งทำให้การอ่อนตัวลงมาปิด 13.40 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 135 ล้านบาท กลายเป็นจังหวะซื้อสวนนะออเจ้า

* ส่วนรายที่ต้องถอยห่างให้สุดซอย เพราะบรรดาเจ้ามือเริ่มออกของแบบไม่ยั้งมือ “โมนิก้า” คงชี้เป้าไปยังหุ้น SICT เพราะการวิ่งชนซิลลิ่งเป็นเวลา 4 วันติด ท่ามกลางการซื้อขายวันแรกแค่ 160 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นซื้อขายไม่ถึง 30 ล้านบาท มันก็บอกเป็นนัยแล้วว่า เจ้ามือดูดของเพื่อรอปล่อย เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นทรุดฮวบลงมากองอยู่ที่ 5.35 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 14.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 911 ล้านบาท เพราะเป็นการหย่อนหุ้นให้แมงเม่ามารับของร้อน หลังพื้นฐานไม่สอดรับกับราคาในกระดานนะซี

* ตบท้ายกันที่เรื่อง “เปลี่ยนม้ากลางศึก” ที่เกิดขึ้นกับหุ้นน้องใหม่ ETC จากที่เคยฟูมฟักกับ บล.เคทีบี มาเป็นเวลานาน จู่ ๆ โดนตาอยู่อย่าง บล.ยูโอบี ปาดตาล..อุ๊ย..ปาดหน้าเค้ก ไปแบบนี้ ทำให้สังคมชาวหุ้นเม้าท์กันยกใหญ่ และน้องโมบอกได้ทันทีว่า  ความลับไม่มีในโลก และสาเหตุที่ย้ายค่ายปุ๊บปั๊บ ทุกคนเขารู้กันอยู่แล้วว่า เจตนาของก๊วนนี้ต้องการอะไร ?..หรือจะเถียงหรือว่าไม่จริง..อิอิอิ

Back to top button