ปมร้าวลึก WEH

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนจะไปดูเรื่องราว “เลือดข้น คนจาง” ในฉบับตลาดหุ้นไทยแบบไตรภาค เพื่อทำให้สังคมได้รับรู้ถึงผลประโยชน์มากมายมหาศาล มักทำให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนจาก “หน้ามือ” กลายเป็น “หลังมือ” ในชั่วพริบตาเดียว “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนเพื่อย้ำหัวหมุดทิศทางตลาดหุ้นไทยยังไซด์เวย์อีกสักนิด ต่อจากนั้นค่อยมาดูจุดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ “ขายพี่ ฟ้องนาย ทิ้งเพื่อน” อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นผลมาจากอาการโลภมากอยากรวยคนเดียว (เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว) มันแวบเข้ามาในสมองนะซี

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบทำการสรุปบรรยากาศการซื้อขายที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก่อนจะปิดตัวไปที่ระดับ 1,333.22 จุด ลบไป 4.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.50 หมื่นล้านบาท มันก็เหมือนกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ 2 เดือน เพียงแต่หุ้นตัวเด่น ๆ ที่ขึ้นมาเที่ยวนี้เปลี่ยนไปจากเดิม แถมวานนี้เป็นจังหวะของบลูชิพบางตัวเริ่มขึ้นอีกครั้ง จึงไม่ต้องสาธยายอะไรเยอะก็เท่านั้นเองจ้า !

*วกกลับมายังเรื่องที่ “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่ทีแรกสักหน่อย เพราะปมร้าวลึกดังกล่าวมันเกิดจากการต้องคำสาปของหุ้นฟอร์มแรงอย่าง WEH แถมกลุ่มคนดังกล่าวยังไม่รู้จักคำว่า “ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ” ความวุ่นวายอลหม่านถึงแผ่ขยายในวงกว้าง บวกกับคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องล้วนอยู่ในข่ายสีเทาที่มีเรื่องให้เม้าท์ถึงไม่หยุดหย่อน เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจคนแรกที่เข้ามาสร้างเรื่องอย่าง เฮีย น. ต้องรีบเก็บข้าวของ ก่อนจะระเห็จหลบอยู่ต่างประเทศเจ้าค่ะ

*ผลดังกล่าวทำให้ต้องรีบเซ็นโอนหุ้นให้กับคนใกล้ชิด เพื่อดำเนินการเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นตามแผนที่วางไว้ ก็ปรากฏหุ่นเชิดตัวใหม่ที่ค่อนข้างมีคลาสโผล่ขึ้นมา และทำให้คนในวงการสนใจชื่อ เฮีย น. ขึ้นมาในทันที เพราะถ้าดูตามเงินบนหน้าตักที่แต่ละคนแบไต๋ให้เห็นกันโต้ง ๆ อาตี๋รายนี้แทบไม่มีอะไรเลยที่จะสู้กับเขาได้ ยกเว้นแค่จุดสองห้อยที่พกติดตัวมา สังคมเลยเคลือบแคลงสงสัยว่า ดีลนี้จะไปต่อได้อย่างไรล่ะคะ

*โชคดีที่อาตี๋ดังกล่าวเป็นลูกชายคนกลางของตระกูล ณ จึงระดมเงินจากกงสีได้ราว ๆ 3 พันล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายงวดแรกให้กับ เฮีย น. ที่หนีไปอยู่ในต่างประเทศ แต่เงินก้อนแรกก็โอนไปไม่ถึงมือคนแดนไกลสักที จนนำไปสู่การฟ้องร้องเพื่อดำเนินการเรียกหุ้นคืนจากอาตี๋ และสิ่งที่คนแดนไกลแค้นสุดน่าจะเป็นคนใกล้ชิดของตัวเองที่ชื่อ อ. และ ธ. ดันเกิดความคิดแปรพักตร์ไปอยู่กับอาตี๋จอมเจ้าเล่ห์ เพราะถูกซื้อด้วยหุ้น WEH ที่คนแดนไกลเป็นเจ้าของนะซี

*เรื่องฟ้องร้องดังกล่าวทำท่าจะมีเพียงแค่นี้ แต่ดันเกิดศึกสายเลือดภายในตระกูล ณ หลังผู้เป็นพ่อออกมาโวยวายเรื่องการถูกปลอมลายเซ็นโอนหุ้นให้กับฝั่งแม่เมียอาตี๋ (ถ้าใครรู้สาแหรกของต้นตระกูลก็จะเห็นว่า มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับรุ่นพ่อรุ่นแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) จนนำไปสู่การพิสูจน์ลายมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลายเป็นข่าวครึกโครมในช่วงที่ผ่านมา..จำกันได้ไหมคะ

*ที่สำคัญคือ ช่วงคาบเกี่ยวก่อนจะมีเรื่องฟ้องร้องต่าง ๆ จนตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน เฮีย ป. พาเพลิน ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงอย่างเต็มตัว หลังจากตัวเองขายหุ้นพลังงานตัวหนึ่งจนเกลี้ยง ก็ทุ่มเงินมาใส่ไว้ที่นี้แบบสุดซอย แถมยังเป็นคนออกหน้าเรื่องการกู้เงินจากแบงก์ตราใบโพธิ์ เพราะมีความมั่นใจอย่างล้นปรี่ว่า WEH ได้เข้าตลาดหุ้นอย่างแน่นอน ซึ่งตั่วเฮียก็นั่งร้องเพลงรอมาเป็นเวลา 3 ปีเห็นจะได้กระมั้ง!..อิอิอิ

*สำหรับฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ป.พาเพลิน ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติเงียบด้วยการเรียกประชุมกรรมการ เพื่อกำหนดวันเลือกกรรมการชุดใหม่เข้าไปสะสางเรื่องเน่า ๆ ที่ซุกไว้ใต้พรมก็มาจาก ค่าใช้จ่ายของบริษัทดันพุ่งสูงปรี๊ดชนิดอ้าปากค้าง (ว่ากันว่า อาตี๋ กับ เมียอาตี๋ เอาบิลมาเบิกทุกอย่างเช็ดเม็ด) ผนวกกับตัวผู้บริหารไม่ควรมีคดีติดตัว เพราะจะทำให้แผนเข้าตลาดหุ้นเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด (ก.ล.ต. ไม่ไฟเขียวแน่นอน) จึงต้องการโละบอร์ดเก่าทิ้งหมดไงล่ะคะ

*เรื่องดังกล่าวคงไม่ง่ายเหมือนที่คิด เพราะแต่ละฝั่งมีเสียงอยู่ในมือราว 40% จึงต้องระดมเสียงมาเป็นพวกตัวเองให้ได้มากสุด และสถานการณ์ดังกล่าวก็เข้าทางปืนขรัวเฒ่า ว. ซึ่งช่ำชองเรื่องกฎหมาย และมากด้วยประสบการณ์หักหลัง (แถมยังถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 4% อีกต่างหาก) “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุด ๆ หากขรัวเฒ่าไปยืนฝั่งของพวก ป.พาเพลิน อาจเหมือนเป็นการทำร้ายหลานตัวเองนะจ๊ะ

*อ้อ!..ตั้งแต่เริ่มเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ให้ชาวบ้านนินทาอย่างสนุกสาน ขรัวเฒ่าก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ในทุกเหตุการณ์สำคัญ และยังมีเอี่ยวเกี่ยวกับผลประโยชน์ทุกอย่าง แถมยังสนิทแนบแน่นกับคนในตระกูล ณ “โมนิก้า” เลยสงสัยว่า นี่อาจเป็นแผนล่อ ป.พาเพลิน ออกจากถ้ำเพื่อช่วยกันรุมกระทืบอะป่าว?..งานนี้ดู ๆ ไปแล้ว น่าจะพังกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน..ส่วนจะเป็นใคร คงต้องรอดูกันต่อไปเจ้าค่ะ