หุ้นรพ. ติดเชื้อโควิด
ติดเชื้อโควิดกันงอมแงมเลยทีเดียว กรณีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เปิดงบไตรมาส 2/2563 ออกมาเละเทะ..ประสบปัญหารายได้หด กำไรหายกันถ้วนหน้า…
สำนักข่าวรัชดา
ติดเชื้อโควิดกันงอมแงมเลยทีเดียว กรณีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เปิดงบไตรมาส 2/2563 ออกมาเละเทะ..ประสบปัญหารายได้หด กำไรหายกันถ้วนหน้า…
ปมหลักมาจากมาตรการล็อกดาวน์ ห้ามการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติหายวับไปทันที..!!
ประกอบกับในสถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้ คนมองว่าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่เสี่ยง เป็นศูนย์รวมของเชื้อโรค ดังนั้นใครที่มีอาการเจ็บป่วยไม่มาก ก็อาจใช้วิธีหาซื้อยามากินเอง เพื่อเลี่ยงที่จะไม่ไปโรงพยาบาล อีกทั้งคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง การเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เป็นหวัด ก็จะน้อยลง ทำให้การบริการในบางเซ็กเตอร์หายไป
รวมถึงกลุ่มคนที่มีแผนจะซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี ก็อาจจะชะลอออกไปก่อน เพราะกลัวติดโควิด…
จึงทำให้ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลออกมาเละเทะอย่างที่เห็น…
โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นลูกค้าชาวต่างชาติ อย่างบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จากเดิมกำไรเคยทำได้ 725 ล้านบาท ไตรมาสนี้เหลือแค่ 44 ล้านบาท ลดลง 93.9%
เรียกว่าเจออิทธิฤทธิ์ของโควิดไปเต็ม ๆ เนื่องจากลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของ BH ไม่สามารถบินมารักษาพยาบาลในไทยได้ ทำให้รายได้จากโรงพยาบาลลดลง 43.4% อยู่ที่ 2,422 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติหายไป 58.9% และรายได้จากกลุ่มลูกค้าคนไทยหายไป 13.0%
ด้านบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน รายได้ค่ารักษาพยาบาลลดลง 30% อยู่ที่ 13,080 ล้านบาท โดยรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติลดลง 58% แบ่งเป็น ผู้ป่วยตะวันออกกลาง 86% ผู้ป่วยออสเตรเลีย 74% และผู้ป่วย CLMV 65% ส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย ลดลง 22%
ส่งผลให้ไตรมาสนี้ BDMS มีกำไรเหลือแค่ 458 ล้านบาท ลดลง 75% จากเดิมที่เคยทำได้ 1,865 ล้านบาท
ส่วนบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH จากเดิมมีศูนย์ผู้มีบุตรยากปั๊มกำไร เนื่องจากมีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง แต่ในไตรมาสนี้ทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และชาวต่างชาติ จากศูนย์ผู้มีบุตรยากลดลง ทำให้รายได้จากโรงพยาบาลลดลง 45.30% อยู่ที่ 116 ล้านบาท ส่งผลให้พลิกมาขาดทุนสูงถึง 223 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมีกำไร 38 ล้านบาท
EKH จึงมีสภาพไม่ต่างจากผู้ป่วยติดเตียง..!!
ฟาก บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH ก็ย่ำแย่ รายได้จากการรักษาพยาบาลลดลง 1.15% อยู่ที่ 332 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ผู้ใช้บริการทั่วไป ลดลง 10.9% โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมารับการรักษาพยาบาลได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รายได้ผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มขึ้น 12.85% เนื่องจากค่าหัวประกันสังคมเพิ่มขึ้น
ประกอบกับบริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมถึงภาษีเงินได้ที่เกิดจากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสูงขึ้น ส่งผลให้ไตรมาสนี้พลิกมาขาดทุน 5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 17 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG พลิกมาขาดทุน 125 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 223 ล้านบาท
โดยมีรายได้ 1,580 ล้านบาท ลดลง 21.4% แบ่งเป็น ธุรกิจให้บริการทางการแพทย์มีรายได้ 1,505 ล้านบาท ลดลง 13.9% เนื่องจากจำนวนผู้มาใช้บริการลดลง โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่มีคนไข้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติลดลง และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเครื่องมือแพทย์ มีรายได้ 72 ล้านบาท ลดลง 72.1% เนื่องจากลูกค้าชะลอการโอนห้องในโครงการ Jin Wellbeing County ทำให้มียอดโอนแค่ 2 ห้อง จากเดิมมียอดโอนห้อง 36 ห้อง
หันมาดูกลุ่มที่ประคองตัวได้ เห็นจะมีบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ที่โชว์กำไรสุทธิ 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 243 ล้านบาท
รวมทั้งบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ที่โชว์กำไรสุทธิ 154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท
ทว่าเห็น BCH และ CHG โชว์งบสวยขนาดนี้…ไม่แน่อาจติดเชื้อโควิดแบบไม่แสดงอาการก็ได้นะ
…อิ อิ อิ…