พาราสาวะถี

วันนี้ชี้ชะตาเรือดำน้ำ 2 ลำ 22,500 ล้านบาท คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะมีมติออกมาอย่างไร หรือทางกองทัพเรือจะขอให้ชะลอการจ่ายเงินออกไปก่อน งานนี้อย่างที่รู้กันยกเลิกการซื้อไม่ได้ ก็ต้องอาศัยการต่อรองกับทางการจีนด้วยสถานการณ์ที่กำลังเผชิญขอความเห็นใจเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยได้หรือไม่ ยักษ์ใหญ่ที่นับตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐบาลเผด็จการก็เป็นมิตรที่ดียิ่ง คงปรานีมีเมตตาอยู่กระมัง


อรชุน

วันนี้ชี้ชะตาเรือดำน้ำ 2 ลำ 22,500 ล้านบาท คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะมีมติออกมาอย่างไร หรือทางกองทัพเรือจะขอให้ชะลอการจ่ายเงินออกไปก่อน งานนี้อย่างที่รู้กันยกเลิกการซื้อไม่ได้ ก็ต้องอาศัยการต่อรองกับทางการจีนด้วยสถานการณ์ที่กำลังเผชิญขอความเห็นใจเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยได้หรือไม่ ยักษ์ใหญ่ที่นับตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐบาลเผด็จการก็เป็นมิตรที่ดียิ่ง คงปรานีมีเมตตาอยู่กระมัง

อย่างที่รู้กัน ตัวชี้ชัดสำคัญในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชุดนี้คือพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อฟังเหตุผลที่สื่อสารกับสังคม ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีทางเลือกอื่นให้พรรคเก่าแก่ต้องเดิน การจะกลับลำด้วยการยกมือโหวตหนุนทั้งที่ได้ประกาศคว่ำไว้แล้วชัดเจน คงมีแต่เสียกับเสีย ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องเจ็บตัวกันทุกฝ่ายในซีกกุมอำนาจ การชะลอออกไปจึงเป็นทางลงที่น่าจะไม่มีใครต้องเจ็บตัว และปิดอีกช่องทางที่ฝ่ายเคลื่อนไหวต่อต้านจะนำไปเป็นประเด็นขยายผลเรียกคะแนนนิยมเพิ่ม

ท่วงทำนองแห่งความอึดอัดของท่านผู้นำ แสดงผ่านการไปพูดบนเวทีที่ตัวเองเป็นประธานเปิดงานหรือการพบปะกับประชาชนในช่วงที่ไปประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดระยองได้เป็นอย่างดี ไม่แฮปปีกับการถูกดักคอในจังหวะนี้อย่างแน่นอน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเสียงที่เคยสนับสนุนอย่างหนาแน่นมันได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงแค่ผลโพลจากพวกเดียวกันเท่านั้นที่ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้สบายอกสบายใจเหมือนที่ผ่านมาได้

ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อถูกไล่ต้อนมาจากขบวนการคนหนุ่มสาว พร้อมกับเสียงขานรับอื้ออึง มันจึงต้องออกมาในรูปแบบของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้เสนอประกบกับร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นผู้สนับสนุน แต่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดเสนอ สุดท้ายที่ทุกร่างจะเหมือนกันคือต้องมีการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน มาเป็นผู้ยกร่างอันจะก่อให้เกิดการยอมรับจากทุกฝ่าย

จุดใหญ่ใจความของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะใช้ร่างของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ขึ้นอยู่กับว่าส.ว.ได้รับไฟเขียวหรือใบสั่งจากผู้มีอำนาจแต่งตั้งให้เข้าร่วมสังฆกรรมกับการแก้ไขครั้งนี้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าในวาระแรกและวาระสามนั้น ที่ประชุมร่วมรัฐสภาในการจะให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องมีเสียงของส.ว.ไม่น้อยกว่า  1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด เมื่อเงื่อนไขเป็นอย่างนี้จึงไม่แปลกใจที่ข้อเสนอปิดสวิตช์ส.ว.ของก้าวไกลและคณะก้าวหน้าจะไม่ได้รับการตอบสนองจากพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง

เมื่อหวังผลในการแก้ไข ก็ต้องไม่ไปแตะสิ่งที่รู้ว่าเป็นปัญหา ในจังหวะที่ฝ่ายกุมอำนาจไม่มีทางเลือกอื่น หากต้องการลดกระแสเคลื่อนไหวของขบวนการหนุ่มสาวที่นับวันยิ่งจะคึกคักขึ้นตามลำดับ ก็ต้องเดินกันในแนวทางที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนปลายทางจะเดินไปถึงการมีส.ส.ร.ได้หรือไม่ ไม่มีใครการันตีได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยและตัวแปรที่ยากจะคาดเดา เพราะการขับเคลื่อนหน้ากระดานกับเกมหลังฉากนั้น มันเหมือนหนังคนละม้วน

ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันคืออะไร หากเชื่อมั่นว่ากุมความได้เปรียบโดยเฉพาะการใช้กำลังของฝ่ายความมั่นคงเข้าจัดการ คงทำไปนานแล้ว มาถึงนาทีนี้ไม่ใช่แค่ว่า ม็อบจุดติดและมวลชนมีกำลังเพิ่มมากขึ้น แต่ตามตำราพิชัยสงครามกลการศึกที่เมื่อรู้ว่ารบไปแล้วไม่ชนะย่อมต้องประเมินกำลังของอีกฝ่าย และสืบเสาะหาข่าวว่าใคร เป็นอย่างไร เบื้องหลังเบื้องลึกของศัตรูที่เผชิญนั้นต้องอ่านกันให้ขาด

มาตรการของผู้ชุมนุมที่ใช้ตอบโต้ฝ่ายเจ้าหน้าที่อย่างการสาดสีหน้าสน.สำราญราษฎร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่แสดงออกถึงการใช้อารยะขัดขืน ซึ่งการไม่มีชายชุดดำ การไม่มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเข้ามาเป็นตัวบั่นทอนความบริสุทธิ์ของม็อบ การใช้เพียงสองมือเปล่าและกลวิธีที่ดูจะสกปรกเลอะเทอะแต่ไม่รุนแรง ย่อมสร้างความหงุดหงิดรำคาญให้กับฝ่ายผู้ปฏิบัติงานไม่น้อย ซึ่งกว่าจะถึง 19 กันยายนที่เป็นหมุดหมายนัดชุมนุมใหญ่นั้น ยังจะมีอีกหลายความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายกุมอำนาจวางใจไม่ได้แม้แต่น้อย

ทางด้านระดับนำของขบวนการคนหนุ่มสาวมาจนถึงขณะนี้ เริ่มรู้ดีแล้วว่าเคลื่อนไหวกันแบบใดที่จะนำไปสู่เป้าหมายตามข้อเรียกร้องได้ ประเด็นหลักว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากจะสำเร็จต้องไปมีเรื่องอื่นหรือข้อเรียกร้องที่สุ่มเสี่ยงมาสอดแทรก ด้วยทิศทางที่เห็นแล้วว่ากุมความได้เปรียบ จึงต้องยืนระยะกันให้ได้ จนกว่าการแก้ไขจะไปถึงจุดที่ทุกอย่างตกมาอยู่ในมือของประชาชนแล้ว มิเช่นนั้น อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันชิงตัดหน้าได้

อย่าลืมเป็นอันขาด หากมองไปยังเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันเอื้อต่อการฉีกทิ้งเป็นอย่างยิ่ง แต่หากภาคประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาวมองเห็นแล้วว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นประเทศมีแต่จะเสียหาย ดังนั้น จึงต้องช่วยกันขับเคลื่อนรักษาแนวร่วมและขยายมวลชนให้ต่อเนื่อง โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม อีกเรื่องที่ต้องพึงระวังกันก็คือ การเบี้ยวเรื่องมาตรา 256 จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ บางทีกรณีเรือดำน้ำอาจจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งก็ได้

ไม่มีอะไรพลิกโผ “บิ๊กปั๊ด” พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เข้าวินเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 12 ตามคาด แซงรองผบ.ตร.ผู้ที่มีอาวุโสสูงกว่าไปหลายราย แต่ไม่เป็นปัญหาเมื่อผลงานเป็นที่เข้าตาและถือว่าเหมาะสม แต่การจะเข้ามารับไม้ต่อจาก พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนั้น ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเข้ามารับงานหนักและเผือกร้อนที่รออยู่อย่างแน่นอน

Back to top button