ปัจจัยภายในกดดัน

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ที่ปิดลบ (-7.62 จุด ปิด 1,27.34 จุด)

ต้องยอมรับว่ามาจากปัจจัยภายในล้วน ๆ จริง

ก่อนหน้านี้ แม้ “ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง

จะบอกว่า ปัจจัยต่างประเทศ จะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าปัจจัยภายในประเทศ

แต่ก็น่าจะมีข้อยกเว้นบ้างแหละ

เพราะวานนี้ ตลาดหุ้นฝั่งยุโรป ขณะกำลังเขียนต้นฉบับ ต่างอยู่ในแดนบวกทั้งหมด

ตลาดหุ้นเอเชีย ต่างก็ปิดในแดนบวกทั้งหมดเช่นกัน (ยกเว้นสิงคโปร์) และดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกอยู่กว่า 260 จุด (+0.94%)

ส่วนของไทยลงมาปิดในแดนลบซะอย่างนั้น

นักวิเคราะห์ต่างยอมรับว่า ปัจจัยกดหุ้นไทยวานนี้ มันมาจากภายในประเทศจริง ๆ

มีทั้งแรงกดดันจากการชุมนุมทางการเมืองวันที่ 19 ก.ย.นี้

ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (คนใหม่) ยังไม่ปรากฏความชัดเจน และอีกประเด็นสำคัญคือ ความล่าช้าของงบประมาณปี 64

ทั้งหมดนี้ ทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุน

อย่างที่รับทราบกัน

นักลงทุนนั้น “ชอบความชัดเจน”

ดังนั้น อะไรที่ยังไม่ชัดเจน มีความคลุมเครือ

นักลงทุนจะเลือก “ปรับพอร์ต” หันมาถือ “เงินสด” กันมากขึ้น หรือนำเงินไปพักยังสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อปรับลดความเสี่ยงด้านการลงทุน

นอกเหนือจากปัจจัยลบที่บอกมาแบบคร่าว ๆ แล้ว

ในประเทศยังขาด “แรงขับเคลื่อน” ใหม่ ๆ เข้ามาช่วยดันดัชนีอีกด้วย

อย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่เป็นการกระตุ้นการบริโภคที่ชื่อว่า “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล

มาตรการนี้ยังไม่ได้ออกมาเป็นรูปร่าง

รู้แต่เพียงว่าคล้าย ๆ “ชิม ช้อป ใช้” เพียงแต่ครั้งนี้ เงินจะเข้าไปอยู่กับร้านค้าขนาดเล็กมากขึ้น

แต่ทั้งหมดนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หน้าตามาตรการที่แท้จริงเป็นอย่างไร

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่นักลงทุนปูเสื่อนั่งรอดูอยู่

เมื่อมีแต่ปัจจัย (ในประเทศ) ลบกดดัน และยังไม่มีแรงขับเคลื่อนใหม่เข้ามา

ทิศทางตลาดหุ้นไทยจึงยังซึม ๆ ไปแบบนี้

ย้อนกลับไปดูเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมากันอีกครั้ง ที่ดัชนีปิดหลุดระดับ 1,300 จุด (1,296.79 จุด)

วันถัดมา ก็ยังปิดต่ำกว่า 1,300 จุดอีก (1,299.26 จุด)

หลังจากนั้น ดัชนี สามารถขึ้นมายืนเหนือ 1,300 จุดได้ และขึ้นมาปิดสูงสุด 1,326.81 จุด เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 63

หลังจากนั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ปรับลงมาเรื่อย ๆ และมาปิดตลาดหลุด 1,300 จุดอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา (ปิด 1,293.80 จุด)

ผ่านมาถึงวานนี้ ดัชนีปิดต่ำกว่า 1,300 จุด มา 5 วัน (ทำการ) แล้ว

นักวิเคราะห์บางคนให้แนวรับ แบบเผื่อ ๆ ไว้ที่ระดับ 1,250 จุด หรือไม่น่าจะลงไปต่ำกว่านี้มากนัก

เหตุผลคือ ถึงอย่างไร ตลาดหุ้นไทย ก็ยังเป็นสินทรัพย์ต่อการลงทุนระยะยาวที่ดีอยู่ (เลือกลงทุนหุ้นให้ถูกตัว) เพราะ “ดอกเบี้ย” จะยังคงอยู่ในระดับต่ำไปอีกนานอย่างแน่นอน

ล่าสุด สัญญาณ RSI ที่บ่งบอกว่า เข้าสู่ภาวะ “เข้าเขตขายมากเกินไป” หรือ Oversold

อาจทำให้ดัชนีรีบาวด์ทางเทคนิคได้บ้าง

เพราะ 10 วันย้อนหลัง หุ้นปิดแดนลบ 9 วัน (-64.75 จุด) และบวกเพียง 1 วัน (+10.31 จุด)

ผสมกับหากมาตรการกระตุ้นบริโภคที่ออกมาใหม่

ชื่อรัฐมนตรีคลังแล้วเสร็จ (นักลงทุนยอมรับ)

ดัชนีน่าจะดีดกลับได้บ้าง