สังคมข่าวหุ้น
*ทิ้งหุ้นกลุ่มแบงก์
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
*ทิ้งหุ้นกลุ่มแบงก์
*บรรยากาศการลงทุนวานนี้ ดัชนีหุ้นไทยยังคงรีบาวด์ต่อเนื่อง หลังบิ๊กตู่อนุมัติงบ 5 หมื่นล้านกระตุ้นกำลังซื้อไตรมาสที่ 4 ขณะที่นักลงทุนกังวลปัญหาหนี้เสียแบงก์ส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มขึ้น หลังหมดมาตรการพักชำระหนี้ จากผลกระทบของโควิด-19 และกังวลการชุมนุมของม็อบวันที่ 19 ก.ย.นี้ เทขายหุ้นแบงก์ลดความเสี่ยง แนวรับ 1,285 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
*จับตาพรุ่งนี้ FTSE เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย น่าจะเป็นข่าวเชิงบวกต่อตลาดฯ แต่ก็ยังมีปัจจัยการเมืองกดดัน ดังนั้นกูรูแนะนำให้เลือกลงทุนเฉพาะตัวที่โดดเด่นที่เข้าคำนวณในดัชนีฟุตซี่ครั้งนี้ ได้แก่ CRC, CBG และหุ้น SINGER, JMT ที่มีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง
*บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า มองกรณีที่หุ้น SABINA ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นเข้าใหม่ที่ติดอันดับการคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ที่จะเริ่มคำนวณในวันที่ 18 กันยายนนี้ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี สะท้อนให้เห็นว่า หุ้น SABINA เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติจับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีนักลงทุนสถาบันและกองทุนต่างชาติติดต่อขอข้อมูลบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
*ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ส่งสัญญาณหนี้เสียพุ่ง ออกตราสารที่เรียกว่า “Additional Tier 1 Capital” (AT1) ในวงเงิน 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.2 แสนล้านบาท โดยเป็นการออกหุ้นกู้เพื่อเพิ่มเข้าใน Tier-1 หุ้นแบงก์ตัวอื่นต่างโดนเทขายกันถ้วนหน้า ขณะที่มุมมองของโบรกฯ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณเชิงลบ ปัญหาหนี้เสียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*จริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) มั่นใจภาพรวมความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณเฉลี่ยปีละ 15-20% จากช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 บริษัทมีออเดอร์ถุงมือยางธรรมชาติที่ต้องผลิตเพื่อส่งมอบถึงช่วงปลายปี 64 และถุงมือยางไนไตรล์ที่ผลิตจากยางสังเคราะห์ มีออเดอร์ที่ต้องส่งมอบถึงต้นปี 65 หลังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ
*ชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเปิดขายกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง รองรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงในช่วงดอกเบี้ยต่ำ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y6 (KTGF1Y6) อายุโครงการประมาณ 1 ปี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 กันยายนนี้
*ผู้บริหาร TOP คาดครึ่งปีหลัง จะไม่มีบันทึกผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันอีก เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค. โดยคาดครึ่งปีหลังราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ 40-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการที่กลุ่มผู้ผลิตโอเปกลดกำลังผลิตเหลือ 7 ล้านบาร์เรลต่อวันไปถึงสิ้นปี 63
*บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกวางจิ 1 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมกับบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ในกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดย EGCO ถือหุ้น 30%, RATCH ถือหุ้น 30% และ EGATi ถือหุ้น 40%
*เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา เอ็มดี บลจ.บางกอกแคปปิตอล กำลังปลื้มสุด ๆ หลังผลตอบแทนกองทุน BCAP USND-100 ที่มีนโยบายลงทุนตรงในดัชนี Nasdaq 100 หรือหุ้นเทคโนโลยีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดสหรัฐฯ เปิดขายไปเมื่อต้น เม.ย. ช่วงที่มรสุมโควิด-19 กำลังพีก ล่าสุดกองทุน BCAP USND-100 ได้โชว์ผลงานให้ผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ส.ค.นี้ สูงถึง 46.04% นับจาก IPO ประมาณ 5 เดือน ส่วนผู้ที่สนใจลงทุนกองทุน ติดต่อขอรายละเอียดหนังสือชี้ชวนได้ที่ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง ทุกสาขา