Black Mondayลูบคมตลาดทุน
เกิดขึ้นอีกจนได้กับปรากฏการณ์ “จันทร์ทมิฬ” หรือ Black Monday
ธนะชัย ณ นคร
เกิดขึ้นอีกจนได้กับปรากฏการณ์ “จันทร์ทมิฬ” หรือ Black Monday
ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ลงไปปิดที่ระดับต่ำสุดพอดีเลยครับ ลบ 64.55 จุด ลงมาเหลือ 1,301.06 จุด
เห็นเขาว่ากันว่าหากหลุด 1,300 จุด ก็ตัวใครตัวมันกันเหอะ หลวงพ่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ช่วยไม่ไหว ท่านคงบอกได้เพียง “โกยเถอะโยม”
ยิ่งหากเมื่อคืนนี้ ดาวโจนส์ยังลงต่อนะ
วันนี้ของไทยก็ฉิบหายกันต่อล่ะ
ระหว่างเขียนต้นฉบับ เห็นราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมาที่ 39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง และดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ลงมาแล้ว 600 จุด ดูแล้วไม่น่ารอด
ดาวโจนส์นั้น หุ้นกลุ่มพลังงานมีมาร์เก็ตแคปมากสุดด้วย เหมือนกับของประเทศไทย
Black Monday! เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 19 ตุลาคม 2530 ครับ ตลาดหุ้นทั่วโลกตกพร้อมๆ กันอย่างหนัก และต่อมาก็คือวันที่ 27 ตุลาคม 2540 หรือ the October 27 mini crash
ส่วนของไทยนั้นช่วงที่หุ้นตกหนักๆ และเป็นวันจันทร์นั้นก็มีอยู่หลายครั้ง
เช่น วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 วันนี้ดัชนีปรับลงจาก 1,570 จุด ลงมาเหลือ 1,542 จุด หรือลบ 28 จุด
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556 ดัชนีปรับลงมา จาก 1,445 จุด แล้วมาปิดตลาด 1,398 จุด ติดลบ 47 จุด
และล่าสุดที่ลงมาหนักๆ ก็วานนี้นั่นแหละ ลบ 64.55 จุด
ดัชนีหุ้นไทยที่ตกลงมาแต่ละช่วง แต่ละสถานการณ์ หรือปัจจัยที่ทำให้ดัชนีต้องร่วงนั้นแตกต่างกันไป
และนั่นก็ทำให้นักวิเคราะห์อาจคาดการณ์ไม่ได้มากนักว่า จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ กว่าดัชนีจะดีดกลับมาขึ้นให้เท่ากับก่อนเกิดเหตุ Black Monday
หรือสรุปง่ายๆ ก็ต้องวิเคราะห์กันไปตามสถานการณ์
วานนี้มีเพื่อนนักลงทุนชาวต่างชาติส่งข้อความนี้มาให้ครับ
Last week was red week all over…. Maybe time to buy stocks now
ผมก็เลยตอบกลับไปว่า I think so too.
ส่วนนักลงทุนไทยที่เป็นรายใหญ่ๆ ผมก็โทรไปพูดคุยตามปกติครับ
โดยสรุปคำตอบที่ได้รับยังคงออกแนวเดิมๆ คือ ดีที่มีการปรับพอร์ตไว้ก่อนหน้านี้ แล้วหันมาถือเงินสดมากขึ้น และลงทุนในหุ้นก็ 30-35% เท่านั้น
แต่บางคนก็บอกว่า ถือแค่นี้ก็ยังเจ๊งเยอะอยู่นะ ดูไปน้ำตามซึมไป สู้ทำให้จิตใจให้สบายๆ ดีกว่า
แต่หากใครเป็นนักลงทุนระยะยาว ก็ถือว่าเป็นโอกาส และมองว่า ไม่แน่เหมือนกันน้า…. ช่วงเดือนกันยายนนี้อาจเป็น Bottomup
วานนี้เห็นพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์ข้อความใน Facebook ของ Warren Buffett
“The stock market is a device for transferring money from the impatient to the patient.”
หรือ ตลาดหุ้นคือเครื่องมือในการถ่ายโอนความมั่งคั่งจากคนที่ไม่อดทนไปสู่คนที่อดทนเป็น แล้วพี่ตู่ก็เติมคำว่า “แต่ต้องลงทุนในหุ้นที่ดีด้วย” เข้าไป
ไม่ใช่ไปถือพวกหุ้นเก็งกำไร ไร้พื้นฐาน
ส่วนหุ้นที่ดีนั้น อยากทราบว่ามีหุ้นตัวไหนบ้าง ก็อ่าน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” บ่อยๆ ครับ
เราพยายามที่จะแนะนำหุ้นโดยนักวิเคราะห์ชั้นเซียนว่ามีหุ้นตัวไหนบ้างที่ทนน้ำ ทนไฟ ทนระเบิด
หรือหุ้นที่แข็งแกร่งสุดในปฐพีมาแนะนำกัน
จงอดทนๆ ท่องคาถานี้ไว้