จอดป้ายเดิม!
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับตรงบริเวณ 1,300 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก So Sad เมื่อทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เดี๊ยนขอเม้าท์ตามตรงว่า หลังจากดัชนีหลุดแนวรับตรงบริเวณ 1,300 จุด ก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึก So Sad เมื่อทุกอย่างแย่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้แฟนคลับตั้งอยู่ในฐานที่มั่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะจะบอกให้
*เนื่องจากการทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วงในเที่ยวนี้ มันสะท้อนให้นักเล่นได้รู้ว่า เมื่อเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นเหมือนกับสิ่งที่นักลงทุนสถาบันคิด ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นอีกต่อไป ดัชนีถึงรูดลงมาปิดที่ 1,275.16 จุด ลบไป 13.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.01 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า ดัชนีก็จอดป้ายเดิมเหมือนครั้งก่อน ๆ และหุ้นบลูชิพก็ยังติดอยู่ในวังวนเดิมอีกเจ้าค่ะ
*สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับเริ่มฉุกคิดตั้งแต่วันนี้ เพื่อทำให้การลงทุนมีความคล่องตัวมากขึ้นก็คือ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ยังเป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมจริงไหม ? หรือแม้กระทั่งหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กยังเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่เหล่านักเล่นต้องรีบกระโจนใส่หรือเปล่า ? มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องมองให้ขาด และต้องเข้าทำให้ทันจังหวะดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะค้างเติ่งอยู่บนดอยนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมองอาการเป๋ไปเป๋มาของดัชนีเป็นเรื่องของอารมณ์ในการลงทุนล้วนๆ ไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่ เพราะอาการตื่นตกใจที่เกิดขึ้นในคราวนี้ มันไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนเคยพบเจอสักเท่าไหร่ วันนี้ถึงต้องโฟกัสเรื่องดังกล่าวเป็น “โอกาส” หรือ “อุปสรรค” หลังข่าวสารด้านลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนเริ่มกลับมาระบาดระลอกใหม่นะซี
*โดยเฉพาะในรายของ JAS ขนาดมีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่าง สุดท้ายทำได้แค่ปิดที่ระดับ 2.94 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 805 ล้านบาท มันเป็นเกมที่น่าอึดอัดใจมาก ๆ เพราะถ้าดูในแง่ของสัญญาณเทคนิคจะเห็นอาการแทงกั๊กค่อนข้างชัดเจน โอกาสที่หุ้นจะ “ขึ้น” หรือ “ลง” ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว จริงหรือไม่ ? คอยดูกันไป…อิอิอิ
*ว่าจะไม่เม้าท์ถึง AH อยู่แล้วเชียว..พอเหลือบไปเห็นนักเล่นเคาะขวารัว ๆ “โมนิก้า” ก็เกิดอาการหูตาผึ่งขึ้นมาในทันที พร้อมกับบอกกับตัวเองว่า นี่คือหุ้นของนักโหนกระแสอย่างแท้จริง ขนาดภาวะการลงทุนตุปัดตุเป๋ พี่ท่านก็ยังยืนหยัดได้หน้าตาเฉย ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 11.90 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 10.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 156 ล้านบาท พร้อมกับแสดงเจตนารมณ์ว่า ต้องการทดสอบ 13 บาทแบบนี้..ห้ามมองข้ามนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่ไม่ควรมองข้ามในยามนี้ได้แก่ NEX กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.42 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 115 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตของพวกโหนกระแสเช่นกัน บวกกับก่อนหน้านี้หุ้นพยายามไต่ระดับขึ้นมาอย่างช้า ๆ จึงไม่มีเวลาคิดอะไรมากอีกแล้ว หากเช้านี้มีออเดอร์เคาะขวาเป็นจำนวนมาก ก็จำเป็นต้องใส่ไว้ก่อน เรื่องอื่นว่ากันทีหลังเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ JKN กลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงอีกครั้ง ประเด็นไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากให้รู้ว่า มันมีเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องหันมามองหุ้นตัวนี้ บวกกับราคาหุ้นกำลังพยายามสร้างฐานแนวรับที่บริเวณ 10 บาท ส่งผลให้การขึ้นมาปิดที่ 10.90 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 14.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 418 ล้านบาท จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยนะซี
*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของ SICT กลายเป็นหุ้นที่มีคนทยอยเก็บของมาระยะหนึ่ง ก่อนจะระเบิดอารมณ์ด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 290 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องใส่ให้มันสุดเหวี่ยงกันไปเลย เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า วอลุ่มซื้อมาจริง ! จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปขวางทางพะยะค่ะ