JMART-KB สบจังหวะจะโคน

การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ออกเกณฑ์ “สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” เพื่อให้กลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าการไปกู้นอกระบบ..!!


สำนักข่าวรัชดา

การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ออกเกณฑ์ สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อให้กลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าการไปกู้นอกระบบ..!!

โดยให้ปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 20,000 บาท ระยะเวลา 6 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 25%…

เบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินว่า กลุ่มแบงก์ที่มีฐานสินเชื่อรายย่อยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้

แม้ว่า TISCO จะออกตัวว่า..ไม่สนใจสินเชื่อประเภทนี้..!!

แต่เอ๊ะ..!! ดูอีกทีก็น่าจะเป็นจังหวะจะโคนของกลุ่มบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ที่จะรุกตลาดสินเชื่อดังกล่าวด้วยเหมือนกัน หลังได้ KB Kookmin Card Co., Ltd (KB) พันธมิตรจากเกาหลีใต้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทลูก บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด มาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง

อย่าลืมว่า คัลเจอร์ของ KB คล้ายกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ในบ้านเรา ที่เป็นเจ้าพ่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ในขณะที่ KB เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลรายใหญ่จากแดน K-POP ที่มีฐานลูกค้ากว่า 34 ล้านราย…

ส่วนเป้าหมายที่ KB เข้ามาในประเทศไทยนั้น เพราะอยากกินเค้กตลาดสินเชื่อรายย่อยที่มีมูลค่ามหาศาล ผ่านกลุ่ม JMART นั่นเอง

เบื้องต้น KB อาจเริ่มด้วยสินเชื่อเช่าซื้อมือถือก่อน โดยจับมือกับค่ายมือถือแบรนด์ดังซัมซุง ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่ซื้อมือถือซัมซุงผ่านร้านค้าในเครือ JMART ก็จะได้สิทธิพิเศษไป…ซึ่ง KB กับซัมซุงเป็นโสมขาวเหมือนกัน ก็น่าจะมีต้นทุนที่ต่ำ…

ค่ายซัมซุงก็ได้ขายของ ส่วน KB เป็นคนปล่อยกู้ ฟาก JMART จะได้ 2 ขา…ขาแรก ได้วอลุ่มจากการขายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ของกลุ่ม JMART ส่วนอีกขาก็จะรับรู้รายได้จากการถือหุ้นในบริษัท เจ ฟินเทค

ที่สำคัญ KB ยังเป็นสปอนเซอร์ให้บอยแบนด์ชื่อดังวง BTS ซึ่งมีฐานแฟนคลับทั่วโลกรวมทั้งในไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและมีการใช้จ่ายไลฟ์สไตล์สูง ก็มีโอกาสที่จะต่อยอดปล่อยกู้ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ได้อีกด้วย

ไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้เห็นวง BTS และศิลปินเกาหลีวงอื่น ๆ มาอยู่บนบัตรของ JFINTECH ก็ได้…

ส่วนกรณีสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล…KB มีความได้เปรียบตรงที่ เข้าถึงได้เร็ว เพราะเน้นปล่อยกู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน ก็ประหยัดต้นทุน เพราะใช้ฐานของกลุ่ม JMART ซึ่งมีฐานลูกค้าเงินผ่อนในต่างจังหวัดผ่านบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER อยู่แล้ว ก็น่าจะตอบโจทย์สินเชื่อรายย่อยรูปแบบออนไลน์ได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่า หาก KB ประสบความสำเร็จในการทำตลาด นั่นก็หมายถึงรายได้และกำไรที่จะกลับคืนสู่ JMART ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เจ ฟินเทค

ที่เห็น JMART ปีนี้โตระเบิดระเบ้ออยู่แล้ว หลังจากได้ลูกเทพอย่าง SINGER และบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT คอยหนุนกำไรแม่…ก็อาจโตมากขึ้นไปอีก…

แหม๊…ชักน่าอิจฉาแล้วอะดิ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button