ไอพีโอ ‘เค-ป็อป’ ร้อนแรงสุด ๆ
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกสามวันดีสี่วันไข้ แต่ในเกาหลีใต้ กำลังเกิดปรากฏการณ์ฟีเวอร์ “ไอพีโอ” บริษัทต้นสังกัดวงบอยแบนด์ “บีทีเอส” กันอย่างล้นหลามและกำลังร้อนแรงสุด ๆ
พลวัตปี 2020 : ฐปนี แก้วแดง (แทน)
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกสามวันดีสี่วันไข้ แต่ในเกาหลีใต้ กำลังเกิดปรากฏการณ์ฟีเวอร์ “ไอพีโอ” บริษัทต้นสังกัดวงบอยแบนด์ “บีทีเอส” กันอย่างล้นหลามและกำลังร้อนแรงสุด ๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศราคาขายหุ้นไอพีโอของบริษัท “บิ๊ก ฮิต เอ็นเตอร์เทนเมนต์” ต้นสังกัดวง “บีทีเอส” ในราคาสูงสุดที่ 135,000 วอน หรือ 115 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 3,565 บาท จากที่ก่อนหน้านี้กำหนดราคาไว้ในช่วง 105,000-135,000 วอน มีการจองซื้อจากนักลงทุนสถาบันถึง 1,420 ราย และจองซื้อหุ้นเกินกว่าที่จะเสนอขาย ประมาณ 7.1 ล้านหุ้น ถึง 1,117 เท่า
คาดว่าบิ๊ก ฮิตจะเข้าซื้อขายในตลาดในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยจะระดมทุนประมาณ 962,550 ล้านวอน หรือราว 25,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเสนอขายไอพีโอครั้งใหญ่สุดในรอบ 3 ปีของเกาหลีใต้
ด้วยราคาขายที่ 135,000 วอน จะตีมูลค่าบิ๊กฮิตประมาณ 4.8 ล้านล้านวอน เมื่อคำนวณจากหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์ที่จะแปลงเป็นหุ้นสามัญได้
บิ๊กฮิตก่อตั้งเมื่อปี 2548 จากข้อมูลเมื่อปลายปี 2562 Bang Si-hyuk เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 45.1% และบริษัทเกม เน็ตมาร์เบิล ถือหุ้น 25.1% รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทพึ่งพาวงบีทีเอสอย่างหนักโดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีรายได้จากบีทีเอส 87.7% จากที่ในปี 2562 พึ่งพารายได้จากบีทีเอสถึง 97.4% โดยมีกำไรในปี 2562 ประมาณ 98,700 ล้านวอน หรือประมาณ 2,260 ล้านบาท
กระแสฟีเวอร์หุ้นค่ายเพลง บีทีเอส พลอยทำให้หุ้นบันเทิงในเกาหลีใต้พุ่งแรงตามไปด้วย เช่น หุ้น วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์สูงขึ้น 11.98% ขณะที่บริษัท เจวายพี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ พุ่งขึ้นประมาณ 9.94% และบริษัท เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ พุ่งขึ้นมากกว่า 6.69%
มีการคาดการณ์ไว้ว่า นักลงทุนรายย่อยในเกาหลีใต้ ที่เรียกกันว่า “Ants” จะจองซื้อไอพีโอบิ๊กฮิตถึง 100 ล้านล้านวอน เพราะก่อนหน้านี้ “Ants” มีความต้องการซื้อหุ้นที่ออกใหม่อย่างไม่รู้จักพออยู่แล้ว หลังจากที่ความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเกาหลีใต้หลังเกิดวิกฤติไวรัสโคโรนา ได้ทำให้เงินท่วมตลาด
มีรายงานว่า แฟนคลับของวงบีทีเอสที่เรียกกันว่า “ARMY” ได้พยายามจองซื้อหุ้นตัวนี้กันสุดฤทธิ์เพราะต้องการสนับสนุนวง “บีทีเอส” เป็นเหตุผลหลัก แฟนเพลงบางคนที่มีอายุแค่ 12 ปี บอกให้พ่อแม่ช่วยซื้อหุ้นให้เพื่อที่จะได้พบกับสมาชิกของวงในการประชุมผู้ถือหุ้นในอนาคต บางคนถึงขนาดบอกว่า ถือเป็นโชคดีแม้จะได้รับหุ้นเพียง 1 หุ้น แม้ว่าจะมีการตั้งราคาเป็นหมื่นดอลลาร์ก็ตาม
บางคนแม้ไม่รู้เรื่องการประเมินมูลค่าหุ้น แต่รู้ว่า “โอปป้า” รวยแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะซื้อหุ้นให้พวกเขารวยยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ไปซื้ออะไรดี ๆ มาใส่ ซึ่งทำให้เธอมีความสุข
บิ๊ก ฮิตกำลังเดิมพันว่าการเข้าตลาดหุ้น จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของวง “บีทีเอส” ได้ บอยแบนด์วงนี้มีสมาชิก
ในวง 7 คน ซึ่งทุกคนหน้าตาดีและเสียงดีทั้งนั้น ซึ่งประกอบด้วย คิม แทฮยอง (วี) จอง โฮซอก (เจโฮป) คิมนัม-จุน (แร็ปมอนสเตอร์) คิม ซอก-จิน (จิน) พักจี-มิน (จีมิน) จอน จอง-กุ๊ก (จองกุ๊ก) และ มิน ยุนกิ (ชูก้า)
มีสัญญาณว่าความนิยมของวงบีทีเอสยังไม่ลดลงง่าย แม้ว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาได้บีบให้ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก และมีความเสี่ยงที่สมาชิกบางคนในวงจะต้องไปรับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปีในเร็ว ๆ นี้
วงบีทีเอสได้ทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซิงเกิ้ล “ไดนาไมต์” ผู้ชมในยูทูปมากสุดภายใน 24 ชั่วโมง และมียอดวิวใน 1 วันถึง 101.1 ล้านวิว
บีทีเอสยังเป็นศิลปินเกาหลีรายแรกที่ติดอันดับหนึ่งของ ยูเอส บิลบอร์ด ฮอต 100 ด้วยซิงเกิ้ล “ไดนาไมต์” ทำให้ได้รับคำชื่นชมจากประธานาธิบดี มูนแจ-อิน ว่า “บีทีเอสกำลังเขียนบทใหม่ในประวัติศาสตร์เค-ป็อป”
นอกจากนี้คอนเสิร์ตออนไลน์ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ทำสถิติในกินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ดว่า เป็นการไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ตเพลงที่มีคนชมมากสุด โดยมีแฟน ๆ เข้าชม 756,000 คน จากกว่า 100 ประเทศ
ในขณะนี้แฟน ๆ ของบีทีเอสกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับการปล่อยอัลบั้ม “BE” ซึ่งจะเป็นอัลบั้มที่สองของปีนี้ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้
ความร้อนแรงของไอพีโอบิ๊กฮิต ทำให้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะเกรงว่า การจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก อาจสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดเงินในระยะสั้นได้
การซื้อหุ้นค่ายเพลงของแฟนคลับไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเค-ป็อป เมื่อปี 2551 แฟนเพลงวง “เกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น” ก็ได้แห่ซื้อหุ้นบริษัท เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ 22.5 ล้านวอน และหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2,700% ในเวลาสามปี
และเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ หุ้นบริษัท Kakao Games ก็พุ่งเกิน 30% ซึ่งเป็นเพดานที่สามารถพุ่งขึ้นได้สูงสุดต่อวัน เมื่อเข้าเทรดในวันแรก
ยังไม่รู้ว่าหุ้นบิ๊กฮิตจะร้อนแรงขนาดไหนเมื่อเข้าซื้อขายในวันแรก แต่ที่แน่ ๆ คาดว่า การจดทะเบียนของบิ๊กฮิตจะทำให้สมาชิกวงบีทีเอสทั้ง 7 คนรวยขึ้นอีก เนื่องจาก ซีอีโอ Bang Si-hyuk แจกหุ้นให้แก่สมาชิกในวง คนละ 68,385 หุ้น ซึ่งเมื่อคูณกับราคาที่เสนอขาย 135,000 วอน ก็จะคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 200 ล้านกว่าบาทต่อคน
เมื่อไหร่หนอ ตลาดหุ้นไทย จะมีหุ้นค่ายเพลงที่ร้อนแรงสุด ๆ แบบนี้บ้าง!