LH ที่ราคา 7.00 บาท

พลวัตปี 2020 : วิษณุ โชลิตกุล

โควิด-19  ทำให้ราคาหุ้นหลายกลุ่มย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน รวมทั้งหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ด้วย

เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อน จนน่างุนงง เพราะการโอนโครงการที่แล้วเสร็จของลูกค้ามีปัญหามากมายเป็นพิเศษ จนส่งผลต่อรายได้และกำไรที่ลดฮวบฮาบ

รายไหนที่ประคองตัวไม่ให้ขาดทุนได้ ก็ยังถูกกดราคาลงมาให้ต่ำกว่าที่เคยเป็น

หุ้นของบริษัทพี่เบิ้มวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็นกรณีศึกษาน่าสนใจยิ่ง

กำไรงวดครึ่งแรกของปีที่ลดลงมาฮวบประมาณ 30% จากระดับ 3.67 พันล้านบาท เป็น 2.73 พันล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปีไม่น่าจะถึง 6,000 ล้านบาท หลังจากที่ทำกำไรสุทธิเกิน 10,000 ล้านบาทมา 3 ปีรวดต่อเนื่องกัน ทำให้ราคาหุ้นร่วงหนักลงมาต่ำกว่า 7.00 บาทนานนับเดือน เพิ่งจะดีดกลับมาเมื่อวานนี้เองที่ระดับ 7.00 บาท ต่อหุ้น

ราคาที่ต่ำมากสุดในรอบหลายปีนี้ของ LH ทำให้ พี/อี เหลือแค่ 8 เท่าเล็กน้อย ต่ำสุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว ในขณะที่บุ๊กแวลูยังดีที่ระดับเหนือ 4.00 บาท

ราคาหุ้นที่ต่ำมากทำให้บรรดานักวิเคราะห์ทุกสำนักแนะนำให้ซื้อเป็นเสียงเดียวกันด้วยความมั่นใจแม้เสียงจะแตกว่าราคาเป้าหมาย หรือราคาจินตภาพจะอยู่ที่เท่าใดระหว่าง 8.30-10.80 บาท แต่ก็ถือว่าราคาปัจจุบันยังต่ำน่าซื้ออยู่ดี

เหตุผลก็เพราะมีความเชื่อมั่นว่ายอดขายในไตรมาสสามยังอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ สามารถเติบโตได้ถึง 35% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ที่ช่วยให้สามารถเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น และฐานปีที่แล้วต่ำ ทำให้ฝ่ายขายโครงการคาดว่าตลอดปีนี้จะเปิดขายทั้งหมด 17 โครงการที่มูลค่า 28 พันล้านบาท เป็นแนวราบทั้งหมดที่มีมาร์จิ้นสูง จะทำให้รายได้และกำไรฟื้นตัวได้ดี

นอกจากนั้น การขายสินทรัพย์ในงวดในช่วงไตรมาสสุดท้ายังถูกคาดหมายเชิงบวกว่า ยังเป็นไปตามแผน โดยเป็นสินทรัพย์ที่อเมริกา หากขายได้จริงก็มีโอกาสจะเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ขึ้นไปได้อีก

ที่สำคัญการการเริ่มโอนคอนโด 2 โครงการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะทำให้มีรายได้เพิ่ม แทนที่จะบันทึกลงในงบดุลเป็นสินค้าคงเหลือมากมายในครึ่งแรกของปีนี้ จะยิ่งช่วยหนุนอัตรากำไร ที่ลดต่ำลงให้คืนกลับมาได้รวดเร็ว

นอกจากนั้นรายได้จากพื้นที่โครงการในรูปค่าเช่า ที่เคยเป็นปัจจัยที่กดดันผลประกอบการครึ่งแรกของปีจากการปิดเมือง จะเริ่มกลับมาดีขึ้น แม้ยังไม่ปกติดีนัก ตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสามเป็นต้นไป และสุดท้ายอัตรากำไรจะกลับมาดีขึ้น จากส่วนลดในช่วงที่หายไป

แนวทางการเปลี่ยนโรงแรมบางส่วนเป็นสถานที่กักตัว จากโรงแรมที่พัทยาเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเพราะโรงแรมของ LH ได้รับอนุญาตจากภาครัฐให้ใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ ทำให้อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 40-50% ใกล้เคียงกับระดับที่ทำให้การดำเนินงานกลับมาคุ้มทุนได้ โดยมีอัตราค่าห้องเฉลี่ยที่ 3 พันบาท/คืน

สถานการณ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น ผสมกับราคาที่ต่ำ ทำให้การเชียร์ให้ซื้อของบรรดานักวิเคราะห์ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น

ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ว่านักลงทุนระดับ “คุณตลาด” จะเชื่อตามนักวิเคราะห์มากน้อยแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า แม้ LH จะเป็นผู้นำทางด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยมายาวนาน จากมีเครื่องมือครบครันและวิสัยทัศน์ที่อ่านตลาด “ได้ขาด” แต่ราคาหุ้นของ LH มักจะคาดเดายากเสมอ ไม่เหมือนหุ้นพิมพ์นิยมที่หวือหวา

หุ้นพื้นฐานทำนอง “มวยหลัก” อย่าง LH จึงเหมาะกับพวกนักลงทุนประเภทที่ “เงินเย็น” มากกว่าพวกเล่นฉาบฉวยตามจังหวะ

เพียงแต่ราคาหุ้นที่ต่ำเกิน น่าจะมีโอกาสได้เห็นการรีบาวด์มากกว่าลงต่อไปอีก