ลุ้นรีบาวด์
*หลังจากตลาดหุ้นไทยตกหนักเป็นเวลา 4 วัน ก็น่าจะถึงเวลาของการดีดกลับอย่างเป็นทางการเสียที (น้องโมคิดว่าจะเป็นแบบนั้น) จึงมองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่พลิกไปพลิกมาเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องอยู่ให้เป็น ซึ่งจะทำให้กระบวนทัพในการเล่นหุ้นคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม และต้องไม่ลืมว่า จุดเด้งแรกบริเวณ 1,230 จุดโดนถล่มขายจนแตกยับไม่เป็นท่า จึงฝากความหวังไว้ที่จุดเด้งสองบริเวณแนวรับ 1,200 จุด น่าจะยังทำหน้าที่ได้ดีพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลังจากตลาดหุ้นไทยตกหนักเป็นเวลา 4 วัน ก็น่าจะถึงเวลาของการดีดกลับอย่างเป็นทางการเสียที (น้องโมคิดว่าจะเป็นแบบนั้น) จึงมองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่พลิกไปพลิกมาเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องอยู่ให้เป็น ซึ่งจะทำให้กระบวนทัพในการเล่นหุ้นคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม และต้องไม่ลืมว่า จุดเด้งแรกบริเวณ 1,230 จุดโดนถล่มขายจนแตกยับไม่เป็นท่า จึงฝากความหวังไว้ที่จุดเด้งสองบริเวณแนวรับ 1,200 จุด น่าจะยังทำหน้าที่ได้ดีพะยะค่ะ
*เหล่านี้เป็นข้อมูลทางด้านเทคนิคที่ “โมนิก้า” อยากนำมาให้แฟนคลับเอาไปประกอบการซื้อหุ้น และอยากให้นักลงทุนสไตล์คุณค่าเข้าใจบริบทของปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในยังคงเป็นตัวเร้าเหมือนเดิม รวมทั้งรูปแบบการลงทุนที่มีทั้ง “สั้น กลาง ยาว” ก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงอยากให้นักเล่นเข้าใจการขายหุ้นเที่ยวนี้ ล้วนเกิดจากคนส่วนใหญ่มองไม่เห็นอนาคตในภายภาคหน้ามันอยู่ตรงไหน ?..อิอิอิ
*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่กังวลกับการทรุดตัวของดัชนีลงมายืนระดับ 1,208.75 จุด ลบไป 24.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.40 หมื่นล้านบาท เพราะตามข้อมูลสถิติที่เกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วน ดัชนีมักล้อไปกับผลประกอบการมากกว่าเรื่องม็อบ เพียงแต่ในระยะสั้นตลาดหุ้นมักโอนอ่อนไปตามกระแสม็อบ จึงต้องฉกฉวยโอกาสในการเล่นรอบกันบ้างนะตัวเอง
*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องเข้าใจหัวอกของหุ้น BTS กับ BEM ให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะกลายเป็นหุ้นที่ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เพราะโดนผลกระทบจากม็อบแบบเลี่ยงไม่ได้ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 9 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 875 ล้านบาท และการยืนปิดที่ 8.15 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 585 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการรอช้อนหุ้นเมื่อลงมาเยอะ ๆ โดยเฉพาะในจังหวะที่ราคาหุ้นลงมาแตะโลว์เดิมที่ระดับ 8 บาท ส่วนรายหลังให้ดูบริเวณ 7 บาทนะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของพี่ PTTEP ถือเป็นหุ้นที่น่าลุ้นเด้งมากสุดในยามนี้ เพราะมองในมุมราคาน้ำมันดิบที่ยังทรงตัวในระดับเดียวกับไตรมาส 3 ผสานกับเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มต่ำบุ๊ก (90 บาท) “โมนิก้า” ย่อมมองหุ้นตัวนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลุ้นรีบาวด์ในวันนี้ หลังราคาหุ้นลงมายืนที่ระดับ 78.25 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับโลว์เดิมบริเวณ 75 บาทนะจ๊ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องโลว์เดิมขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูหุ้น AWC เพื่อชี้ให้เห็นจุดเด้งครั้งก่อนอยู่ที่บริเวณ 3 บาท เมื่อนำมาเทียบกับการยืนปิดที่ระดับ 3.14 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192 ล้านบาท เดี๊ยนเลยมองเป็นเรื่องของการเล่นรอบมากกว่าประเด็นอื่น จึงอยากให้แฟนคลับที่ต้องการ “เคาะสั้น” จับตาดูสถานการณ์วันนี้ให้ดีเป็นพิเศษไงล่ะค่ะ
*ส่วนหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าเทรดได้ไม่กี่วันอย่าง NRF ก็โดนแรงขายอัดไม่เลี้ยงตลอดทั้งวันเหมือนกับหุ้นตัวอื่น ๆ จนดูเหมือนว่า เริ่มหาทางกลับขึ้นไปยืนบริเวณ 6 บาทไม่เจอแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า มันเป็นผลมาจากการเทรดวันนี้อยู่บนค่า P/E 120 เท่า ส่งผลให้กองทุนขายหุ้นทิ้งเพื่อลดความเสี่ยงแบบไม่ลังเลใจ หุ้นถึงลงมากองอยู่ที่ 5.15 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 12.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท ไม่เชื่อลองถาม “เสี่ยยักษ์” ดูซิ !
*สถานการณ์ข้างต้นช่างตรงกันข้ามกับหุ้นขายซอสอย่าง XO เสียเหลือเกิน เพราะรายนี้มาด้วยผลงานสุดปังเป็นแบ็กอัพ ผสานกับตัวเลขกำไรปีนี้น่าจะโตเท่าตัว (ครึ่งปีนี้เท่ากับปีก่อนทั้งปี) “โมนิก้า” ถึงมองการทรุดตัวของราคาหุ้น 3 วันติดมันมากเกินไป บวกกับหุ้นลงมาใกล้ฐานเดิมที่เล่นกันมานาน จึงมองราคาปิดที่ 9.40 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54 ล้านบาท น่าจะมีส่วนทำให้หุ้นรีบาวด์เจ้าค่ะ
*ป.ล. วันนี้เป็นอีกครั้งที่ทำให้เม่าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นแล้วว่า กองทุนตัวจี๊ดกลายเป็นคนสาดหุ้นหนักเพียงลำพังคนเดียว ขณะที่นักเล่นกลุ่มอื่นกลายเป็นคนเข้ามาช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวกันอย่างพร้อมเพรียง น้องโมเลยเชื่อเหลือเกินว่า วันนี้หุ้นไทยน่าจะเด้งขึ้นตามหลักกลศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา..อิอิอิ