ชินม็อบ ชินหุ้น

*สิ่งที่อยากบอกกับบรรดาแฟนคลับขาประจำทั้งหลายว่า เดี๊ยนเป็นคนไม่โลกสวยเหมือนกับคนอื่นทั่วไป จึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่เหมาะต่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะในมุมของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป และประเทศไทยกำลังอยู่ในลักษณะไม่เหมือนเดิม ล้วนเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้ทุกคนได้มองในมุมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะหน้าที่ของนักลงทุนคือ ทำกำไรให้ได้ในทุกสถานการณ์นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สิ่งที่อยากบอกกับบรรดาแฟนคลับขาประจำทั้งหลายว่า เดี๊ยนเป็นคนไม่โลกสวยเหมือนกับคนอื่นทั่วไป จึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่เหมาะต่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะในมุมของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป และประเทศไทยกำลังอยู่ในลักษณะไม่เหมือนเดิม ล้วนเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้ทุกคนได้มองในมุมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะหน้าที่ของนักลงทุนคือ ทำกำไรให้ได้ในทุกสถานการณ์นะจะบอกให้

*งานนี้ใครจะหาว่า น้องโมไม่สนการบ้านการเมืองเหมือนคนทั่วไปก็ช่างหัวปะไร ! เพราะจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมาทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติการเมือง สุดท้ายก็มีแต่บริษัทเอกชนที่ต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อช่วยตัวเองให้อยู่รอด “โมนิก้า” ถึงไม่ให้ความสำคัญกับการทำม็อบที่เกิดขึ้นถี่ยิบ ขณะเดียวกันก็มองเรื่องการเมืองที่ร้องแรกแหกกระเชอเป็นเพียงเกมปั่นหัวของผู้มีอำนาจเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงต้องพยายามทำตัวให้ชินกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะในมุมของระบบเศรษฐกิจก็ยังพอไปได้ และกำลังรอวันฟื้นอย่างเป็นรูปธรรม ผนวกกับมีข้อมูลนักท่องเที่ยวที่มาจากเซี่ยงไฮ้กลุ่มแรกจะเข้ามาในประเทศไทย 40 กว่าคน ต่อจากนั้นจะทยอยเข้ามาในประเทศอีก 100 กว่าคน “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญพอสมควร และน่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 63 นะตัวเอง

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ตลาดหุ้นไทยบวกสวนตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงเปิดตลาด (ลงมาก่อนคนอื่น เลยดีดกลับในวันที่คนอื่นแดง) แต่สุดท้ายกลับทำได้เพียงยืนปิดที่ระดับ 1,210.67 จุด บวกไป 1.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.92 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการเด้งกลับเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แถมเมื่อมองเหตุการณ์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็เป็นลักษณะถอดแบบกันมาไม่มีผิดเพี้ยน เดี๊ยนถึงพยายามชี้ให้เห็นว่า หุ้นกลุ่มไหนโดน sell on fact ไปแล้ว ก็ต้องลุ้นอีกยกหนึ่งว่า มีโอกาสโดนขายซ้ำสองอีกหรือเปล่า ?..อิอิอิ

*โดยเฉพาะในรายของ PTT ถูกขายจนลงมาทำ double low แต่แรงขายยังไม่มีทีท่าจะเบาลง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกหวั่น ๆ เมื่อเห็นสถานการณ์ของหุ้นไม่ค่อยโอเค แถมยังเจอพวกกองทุนสาดหุ้นไม่ยั้ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 32.25 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.80% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 1.72 พันล้านบาท ด้วยอาการอิดโรยแบบนี้..ไซด์เวย์ดาวน์ยาวไปเลยค่ะ

*อีกรายที่ยังมีแรงขายติดพันตลอดเวลา “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GULF เพื่อชี้ให้เห็นแรงขายจากพวกกองทุนยังมีอยู่เยอะ ส่งผลให้ราคาหุ้นหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 30 บาทลงมาอีกครั้ง ก่อนจะปิดตัวไปที่ระดับ 29.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 640 ล้านบาท ทำให้เดี๊ยนเชื่อเหลือเกินว่า นี่เป็นโอกาสของการเก็บหุ้น เพราะเที่ยวก่อนหุ้นก็เด้งกลับตรงบริเวณนี้ (หากไม่โดนซ้ำ รับรองเด้งชัวร์) นะคะ

*ส่วนรายที่งึก ๆ งัก ๆ ทำท่าเหมือนจะฟื้น แต่เอาจริง ๆ กลับไม่ฟื้นสักทีอย่างหุ้น ADVANC กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงบ่อยมากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังทำการประเมินโอกาสเติบโตในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจนติดลบ ผสานกับการเล่นหุ้นแบบอนุรักษนิยม (พี/อี 15 เท่า) ก็กลายเป็นประเด็นทำให้ราคาปิดที่ 172 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 พันล้านบาท สูงเกินไปเมื่อเทียบกับจุดเซฟบริเวณ 150 บาทนะจ๊ะ

*หลังจากเม้าท์เรื่องเซฟ ๆ ก็ถึงเวลาเม้าท์เรื่องเสียว ๆ เพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในชีวิตกันสักหน่อย “โมนิก้า” เลยขอชี้เป้าไปยังอดีตหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ตัวพ่ออย่าง SVI เป็นคิวถัดมาในทันที เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 208 ล้านบาท ช่างใกล้กับยอดเดิมที่บริเวณ 6 บาทเสียเหลือเกิน ผนวกกับนั่งดีดลูกคิดเพื่อหาราคาเต็มแม็ก ก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน..เดี๊ยนถึงมองว่า วันนี้ได้ลุ้นสนุกแน่นอนเจ้าค่ะ

*คล้ายกับการยืนปิดเหนือจองของหุ้นน้องใหม่ PRAPAT กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจเอามาก ๆ เพราะดูจากบุ๊กแวลูในระดับ 1.50 บาท (ระดับเดียวกับขายไอพีโอ) เทียบกับราคาปิดในกระดานที่ 1.46 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 740 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดที่ได้ดูยาว ๆ เพราะถ้าเอาแบบอนุรักษนิยม ด้วยการมอง P/BV 1.5 เท่า ราคาหุ้นควรอยู่แถว 2.20 บาทเป็นอย่างต่ำนะออเจ้า !..จริงหรือไม่ดูกันต่อไปนะคะ

Back to top button