1,200 จุด จะหลุดไหม
สัปดาห์ก่อนหน้านี้
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
สัปดาห์ก่อนหน้านี้
เขียนเรื่องดัชนีระดับ 1,220 จุดว่าเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ไม่น่าจะหลุด เพราะหากหลุด ก็น่าจะมีแรงเข้ามารับซื้อ และดันดัชนีกลับมาได้
ผ่านมาถึงสัปดาห์หนี้
ปัญหาการเมืองในประเทศยังไม่คลี่คลาย หาความชัดเจนไม่ได้ บวกกับต่างประเทศทางยุโรปเรื่องโควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอน
และยังต้องจับตาเรื่องเลือกตั้งสหรัฐฯ
ภาวการณ์แบบนี้นักลงทุนไม่ค่อยชอบ
เพราะนอกจะ “ไร้ความชัดเจน” ในทุก ๆ เรื่องแล้ว
เรื่องต่าง ๆ เหล่านั้น ยังยิ่งแย่ลงไปอีก โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองในประเทศ
นักวิเคราะห์หลายคนที่เคยบอกว่า ดัชนีไม่น่าจะหลุด 1,200 จุด
ผ่านมาถึงต้นสัปดาห์นี้เริ่มเสียงอ่อยล่ะ
บางคนมองว่า แม้ปัจจัยต่างประเทศ จะมีน้ำหนัก หรือกดดันตลาดหุ้นไทยมากกว่าในประเทศ
แต่หากการชุมนุมทางการเมืองยืดเยื้อต่อไป หรือมีเหตุการณ์อะไรที่นำไปสู่ความรุนแรงเกิดขึ้น จนยากเกินความควบคุม หรือต้องใช้เวลาแก้ปัญหา
ดัชนีตลดาหุ้นไทยมีโอกาสหลุด 1,200 จุดได้
“ปัญหาทางการเมืองในไทย โดยเฉพาะการชุมนุมที่ยืดเยื้อมองว่าคงไม่ได้เป็นปัญหากดดันตลาดฯ นานมากนัก
เพราะตามสถิติแล้วเมื่อเกิดปัญหาทางการเมืองผู้ลงทุนจะกังวลแค่เฉพาะช่วงแรก ๆ ต่อมาก็เริ่มชิน
แต่ที่กังวลคือเหตุการณ์ที่บานปลายเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
และด้วยความไม่แน่นอนทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะย่ำแย่มากกว่าหากเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาค”
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด ระบุไว้ในบทวิเคราะห์
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,207.97 จุด นับเป็นการปิดต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน
ซึ่ง ณ วันที่ 16 เม.ย. 63 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,200.15 จุด หรือเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีการล็อกดาวน์หลายเมือง การประกาศใช้เคอร์ฟิวจากปัญหาโควิด-19
ดัชนีที่ปิดต่ำสุดในรอบ 56 เดือนนี้
ในแง่สัญญาณทางเทคนิคดัชนีตลาดหุ้นไทยตอนนี้ถือว่า “ไม่ดีนัก”
นักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ ยังขายสุทธิมาต่อเนื่อง หรือหากนับจากวันที่ 1 ต.ค. 63 มาจนถึงวานนี้ (26 ต.ค.) สถาบันขายสุทธิออกมาแล้ว 12,166 ล้านบาท
ส่งผลให้นับจากต้นปี 2563 สถาบันคงเหลือซื้อสุทธิ 56,006 ล้านบาท
ส่วนนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิออกมาแล้ว (จากต้นปี 2563) กว่า 291,422 แสนล้านบาท
ทำให้สัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยคงเหลือ (รวม NVDR) ประมาณ 25% เท่านั้น
หากแนวโน้มทั้งกองทุน และต่างชาติ ยังจับมือกันขายต่อไป
ยังไงก็หลุด 1,200 จุด เพราะลำพังรายย่อยกับพอร์ตโบรกฯ ไม่น่าจะต้านทานได้
เว้นแต่กองทุนจะกลับลำ หันมาซื้อสุทธิโดยใช้เงินที่ขายไปก่อนหน้านี้วกกลับมาซื้ออีกครั้ง
หรือไม่ก็ใช้เงินจากกองทุน RMF และ SSF
ที่น่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาซื้อในช่วงเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคมนี้