ปลอดภัยไว้ก่อน

*วานนี้ดัชนีพยายามพยุงตัวอยู่ในแดนบวกตั้งแต่เปิดการซื้อขาย สุดท้ายทำได้แค่เพียงปิดที่ระดับ 1,207.94 จุด ลบไป 1.01 จุด ด้วยมูลค่า 5.51 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าอย่างเพิ่งหลงมัวเมา อยู่กับแสงสีเขียวอ่อน ๆ เป็นอันขาด และควรกำหนดจังหวะการขายให้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการไล่ราคาแบบหวือหวา เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องรู้จักทำตัวพลิ้วไหวตามสถานการณ์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไรเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้ดัชนีพยายามพยุงตัวอยู่ในแดนบวกตั้งแต่เปิดการซื้อขาย สุดท้ายทำได้แค่เพียงปิดที่ระดับ 1,207.94 จุด ลบไป 1.01 จุด ด้วยมูลค่า 5.51 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าอย่างเพิ่งหลงมัวเมา อยู่กับแสงสีเขียวอ่อน ๆ เป็นอันขาด และควรกำหนดจังหวะการขายให้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการไล่ราคาแบบหวือหวา เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องรู้จักทำตัวพลิ้วไหวตามสถานการณ์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไรเจ้าค่ะ

*เนื่องจากแรงซื้อที่มีเข้ามาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แถมหุ้นบลูชิพหลายตัวยังอ่อนปวกเปียก กลายเป็นตัวบั่นทอนสมาธิของนักเล่นตลอดเวลา ส่งผลให้ดัชนีไม่สามารถไปไหนได้ไกล ถึงแม้ว่าแนวรับ 1,200 จุด จะยังแข็ง ! แต่ก็ยังไม่ใช่จังหวะดีดตัวแรงอย่างแน่นอน เพราะยังได้เห็นหุ้นบางตัวก็โดนถล่มอย่างหนักหน่วงเหมือนเดิม ส่วนบางตัวก็มีเข้ามาเก็งกำไรกันป๊อก ๆ แป๊ก ๆ เพียงเท่านั้น มันเป็นภาพที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้ำอีกครั้งว่าวันนี้ต้องมองแค่ช็อตสั้น ๆ ยังไงล่ะคะ

*ประกอบกับการเมืองบ้านเรายังไม่นิ่ง ย่อมมีความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้นกว่าปกติ ผู้เล่นจำเป็นต้องรู้จักการเล่นแบบเป็นสเต็ป เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิด เพราะดูเหมือนระยะที่ผ่านมาหุ้นไทยออกอาการสวิงแรง เล่นเอาชาวบ้านชาวช่องหัวหมุน ไม่รู้จะไปซ้ายหรือไปขวา “โมนิก้า” ถึงต้องหยิบยกเรื่องประเด็นดังกล่าวมาคอยย้ำเตือนให้ฟังกันอีกครั้งก่อนจะมีใครเจ็บตัวไปมากกว่านี้เจ้าค่ะ

*ในรายของ HTC กลายเป็นของหวานสำหรับคนที่ชอบเล่นเร็วแบบ “เก็งกำไรวันต่อวัน” เพราะหลัง ๆ มานี้หุ้นมีลักษณะการเคลื่อนตัวแบบขึ้นวันลงวัน แถมระหว่างวันยังมีจังหวะให้เข้า ๆ ออก ๆ กันยิบย่อย เดี๊ยนเห็นว่าระยะหลังมานี้วอลุ่มซื้อขายเข้ามาหนาแน่น ทำให้นักเล่นสั้นชอบอกชอบใจ หากินกับหุ้นตัวนี้อยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าหุ้นค่อนข้างหวือหวา แต่หากผู้ยึดหลัก “เข้าเร็ว ออกเร็ว” ก็ไม่มีอะไรต้องทุกข์ร้อนจริงไหมเจ้าคะ

*รายที่ทำให้เห็นภาพชัดที่สุดคือ BANPU หลังจากราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแบบม้าคึกก็เริ่มถูกผ่องขายออกมา จนล่าสุดมาปิดที่ระดับ 6.95 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือ 0.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 714.88 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของโพสิชั่นการลงทุนเวียนมาบรรจบอีกรอบ เมื่อได้กำไรก็ต้องรีบขาย ประกอบกับด้านพื้นฐานยังมีประเด็นเรื่องราคาถ่านหินกดดัน ทำให้ภาพรวมยังไม่เจิดจรัอย่างที่ควร จึงไม่แปลกใจที่นักเล่นจะเข้าถือแบบสั้น ๆ เจ้าค่ะ

*ถือเป็นปรากฏการณ์เขย่าขวัญผู้ถือหุ้นก่อนฮาโลวีนกันเลยทีเดียว สำหรับหุ้น STARK ที่วานนี้รูดหนักเกือบติดฟลอร์ ก่อนผู้บริหารจะออกมาเฉลยว่าเป็นแค่การโยนบิ๊กล็อตเพื่อเพิ่มฟรีโฟลตเท่านั้น ทำให้ราคากระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย และมาลงเอยที่ระดับ 1.50 บาท ลบ 0.42 บาท หรือ 21.88% ด้วยมูลค่า 3.41 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าจังหวะนี้ถือเป็นโอกาสดีของแมงเม่าที่จะรีบเข้าช้อนหุ้นในราคาต่ำ เพราะต่อจากนี้คงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น แว่วมาว่าผลงานปีนี้จะโตสนั่นสุด ๆ ไปเลยจ้า…อิอิ

*ด้าน CPF หลังจากหุ้นซึมมาพักใหญ่ก็มีปัจจัยบวกหลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวเข้าซื้อธุรกิจหมูในจีน เป็นการย้ำหัวหมุดถึงพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้วานนี้ได้เห็นการเด้งตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 25.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.99% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 469.23 ล้านบาท แถมสัญญาณทางเทคนิคเป็นจังหวะเหมาะสมในการเข้าซื้อ เดี๊ยนมองว่าตราบใดที่หุ้นยังไม่หลุด 25 บาท ก็ยังมีโอกาสไปต่อเจ้าค่ะ

*อย่างในรายของ ZIGA กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.18 บาท บวก 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.81%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 27.60 ล้านบาท แถมสัญญาณทางเทคนิคชี้ชัดเป็นขาขึ้นรอบใหม่ ผนวกกับผลงานไตรมาส 3 จะออกมาโตทะลักหนุนทั้งปี Turnaround เห็นแบ็กกราวด์ปูด้วยทุ่งลาเวนเดอร์แบบนี้ “โมนิก้า” ฟันธงราคาหุ้นน่าจะวิ่งระเบิดระเบ้อได้อีกยาว !

*ปิดท้ายกันที่หุ้น NER เกาะกระแสราคายางไปยาว ๆ หลัง “โควิด-19” เริ่มออกอาละวาดอีกรอบ หนุนให้สตอรี่การทำกำไรยิ่งงอกเงย ถึงได้เห็นการผลักราคาหุ้นวิ่งขึ้นโลดแล่นบนกระดานเขียว ๆ อย่างสม่ำเสมอ จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.98 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.18% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท ไล่ทุบสถิติ All Time High ต่อได้แบบยาว ๆ ยังไงล่ะเจ้าคะ

Back to top button