Ant Group กระเพื่อม ‘ฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้’

เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง

หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของจีน อนุมัติให้บริษัท แอนท์ กรุ๊ป จำกัด (Ant Group) บริษัทในเครืออาลีบาบากรุ๊ป โฮลดิ้ง ทำการเสนอขายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม จากการปิดการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน (institutional book building)

โดยมีการระดมทุนสูงถึง 34,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท นับเป็นการทำ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ทำลายสถิติเดิมของ Saudi Aramco ยักษ์ใหญ่บริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ที่มีมูลค่าระดมทุนกว่า 29,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 882,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ Ant Group จะทำการจดทะเบียนหุ้นใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แห่งละ 1,670 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหุ้นละ 80 ดอลลาร์ฮ่องกง ทำให้ระดมทุนได้ประมาณ 17,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐและตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ จะมีการกำหนดราคาหุ้นละ 68.80 หยวน ทำให้ระดมทุนได้ประมาณ 17,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นั่นทำให้ Ant Group มีมูลค่าตลาดสูงถึง 313,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9.3 ล้านล้านบาท สูงกว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ โกลด์แมน แซคส์, เวลส์ ฟาร์โก และสูงกว่าธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ธนาคารใหญ่ที่สุดของจีน) โดยมีกำหนดเริ่มเข้าซื้อขายวันแรก ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ วันที่ 5 พ.ย. 63

จุดเริ่มต้น Ant Group เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2014 ผู้บริหาร Alibaba ตัดสินใจแยก Business Unit ด้านการชำระค่าสินค้าออนไลน์ (Alipay) ออกจากธุรกิจหลัก แล้วตั้งเป็นบริษัทให้ชื่อว่า Ant Financial Services Group แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อให้สั้นลงมาเป็น Ant Group

นอกเหนือ Alipay แล้ว ธุรกิจในเครือ Ant Group ยังมี Yu’e Bao ที่เป็นบริการซื้อกองทุนรวมผ่าน Alipay, Huabei บริการสินเชื่อรายย่อยและ MYbank ธนาคารออนไลน์ มีสัดส่วนโครงสร้างรายได้ Ant Group มาจาก 4 กลุ่มธรกิจ คือ ธุรกิจชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ 40% ธุรกิจสินเชื่อ 35% ธุรกิจการลงทุน 14.2% และธุรกิจประกันภัย 7.4%

โดยเป้าหมายการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ Ant Group เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบริการแบบดิจิทัล ประเทศจีนให้เติบโตอย่างรวดเร็ว วางจุดยืนในฐานะผู้พัฒนาตลาด (ฟินเทคและแพลตฟอร์มด้านการเงิน) ระดับโลก ร่วมกับพาร์ตเนอร์ ลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง และช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและผู้บริโภคเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม

จากกระแสความสนใจหุ้น Ant Group ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง แข็งค่าขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ 2 ส่วนตลาดหลักทรัพย์แรกคือตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น Ant Group ได้ทั้งตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง (Dual Listing) นั่นทำให้ขยายฐานนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น

จึงน่าสนใจว่าหุ้น FinTech ใหญ่ที่สุดในโลกและกำลังอยู่ในจริตของกระแส New Normal เมื่อเข้าเทรดในตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่งแล้ว แรงตอบรับจะยังหนาแน่นเหมือนดั่งช่วงตอนขายไอพีโอหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทันที..!!