ออมสิน + SAWAD = วินวิน

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนจะเข้าสู่การเผือกเรื่องชาวบ้านอย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กันสักนิดหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องที่ผู้คนมากมายมองว่า การมาของ “ไบเดน” จะทำให้อะไรต่าง ๆ ในโลกดีขึ้นไหม ? หรือแม้กระทั่งการคงอยู่ของ “ทรัมป์” จะดำเนินแนวทางป่วนโลกไหม ? ล้วนเป็นอะไรที่น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่ง เพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่า สุดท้ายพญาอินทรีก็ยังยึดมั่นในเรื่องอเมริกันเฟิสต์เหมือนเดิมพะยะค่ะ

*เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองประเด็นของประเทศมหาอำนาจที่บางคนบอกเป็น มหาโจร..อุ๊ย..มหามิตร ไม่ได้มีนัยสำคัญมากมายสักเท่าไหร่ ! เพราะไป ๆ มา ๆ เราก็ตกเป็นเบี้ยล่างพวกหัวทองอยู่ดี ซึ่งเห็นได้จากการตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มันสะท้อนให้เห็นนโยบายบีบไข่เพื่อให้ยอมศิโรราบได้เป็นอย่างดี เดี๊ยนถึงไม่ให้ราคากับคนพวกนี้สักเท่าไหร่เจ้าค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งก็คือ การมาของผู้กุมชะตาโลกจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนขนานใหญ่อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีบรรยากาศการลงทุนคึกคักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมองในมุมของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ย่อมมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ช่องทางต่าง ๆ อย่างเต็มที่ แถมก่อนหน้านี้ต่างชาติขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เชื่อว่า เม็ดเงินดังกล่าวน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก (วานนี้ยังขายหุ้นไทยอีก 2.20 พันล้าน รวมตั้งแต่ต้นปีขายไป 3 แสนล้าน) นะจ๊ะ

*ข้อมูลข้างต้นถึงสนับสนุนการวิ่งขึ้นของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,221.33 จุด บวกไป 19.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.01 หมื่นล้านบาทอย่างเต็มที่ เพราะในมุมของจิตวิทยาก็มีเพียงประเด็นอัดฉีดเงินที่ทำให้ระบบเงินหมุนเร็วขึ้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับให้ความสนใจกับโครงสร้าง “เศรษฐกิจ” มากกว่าเรื่อง “การเมือง” เพราะเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ขณะที่เรื่องการเมืองเป็นเพียงวาทกรรม (ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง)..อิอิอิ

*หลังจากเม้าท์เรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงข่าวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับแบงก์ออมสินกันสักหน่อย และสิ่งที่พรายกระซิบของเดี๊ยนแอบได้ยินมาก็คือ มีการสับขาหลอกเพื่อให้สังคมตื่นตัวกับเม็ดเงินมหึมาที่หน่วยงานนี้จะนำไปสู่ขอบริษัทที่ทำธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อใช้เป็นด่านหน้าในการช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชน ซึ่งมีประเด็นหลักที่ต้องคิดตาม 3 เรื่องด้วยกันนะจ๊ะ

*เรื่องแรกที่ต้องคิดตามให้ทันคือ การเขย่าตลาดลีสซิ่งเพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมมากสุด ต้องใช้บริษัทใหญ่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันเพื่อกดดอกเบี้ยในระบบให้ลงตามที่ออมสินต้องการ “โมนิก้า” จึงขอขยายความให้ฟังง่าย ๆ แบบนี้คือ หากต้องการล้มแชมป์ขายคอมพ์ ขายโทรศัพท์ อย่าง COM7 กับ JMART ก็ต้องใช้บริษัทที่มียอดขายใกล้เคียงหมื่นล้าน และมีสาขานับร้อยเอามาสู้ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม และเกิดการบอกปากต่อปากนะตัวเอง

*เรื่องสองคงเป็นเม็ดเงินที่ออมสินประกาศลงทุน 2 หมื่นล้านบาท มันทำให้ภาพของบริษัทจดทะเบียนที่พอมีศักยภาพ 2 แห่งลอยมาแต่ไกล และน่าจะตอบโจทย์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี (สาขาครอบคลุมทั้งประเทศ) โดยบริษัทที่ว่านั้นก็คือ MTC กับ SAWAD ซึ่งมองด้วยขนาดของเม็ดเงินก็เข้ากันพอดี แถมออมสินก็เป็นเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่ตามแผนงานที่ต้องการหาคนทำงานแทน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับงานที่ทำอยู่ (ใช้เงินทำงาน) นะจะบอกให้

*เรื่องสามคงใช้เป็นตัวตัดสินสำหรับบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามา 8 บริษัทนั่นก็คือ ออมสินต้องการทำธุรกิจขายฝากที่ดินเพื่อเป็นการดัดหลังพวกเจ้าหนี้หน้าเลือด ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ได้รับมาจากรัฐบาล “ลุงตู่” และเรื่องนี้ถูกย้ำหัวหมุดด้วยภาพเหตุการณ์เก่า ๆ ในวันที่ “ลุงป้อม” มีอีเวนต์คืนโฉนดที่ดินให้กับชาวบ้าน (จำกันได้ไหมเอ่ย ?) และบริษัทที่ตรงปกมากสุดในเวลานี้คือ SAWAD ของน้องหนู “ธิดา” ไงล่ะตัวเอง

*งานนี้ถึงอยากให้แฟน ๆ ลองประเมินข้อมูลที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน ? เพราะเนื้อหาสาระ (แน) ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ล้วนมาจากการถอดรหัสคำสัมภาษณ์ของคุณน้อง “วิทัย” ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของแบงก์ออมสิน และหวังว่าคุณน้องจะไม่สับขาหลอกเหมือนสมัยอยู่ กบข. พร้อมกับปล่อยให้เจ๊ฝันค้างตอนกลางวันแสก ๆ โดยไม่มีเรื่องให้เม้าท์ต่อแบบนี้..แม่ขอแซ่บบ้างได้ไหม..อิอิอิ