DDD เติมเต็มเพื่อไปต่อ.!

ช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย มีหลายบริษัทปรับตัว ปรับแผนธุรกิจ ฉกฉวยจังหวะทำ M&A เทกโอเวอร์กิจการอื่น เพราะช่วงนี้มักจะได้ของถูก ราคาไม่แพง เฉกเช่นเดียวกับ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ที่ฉวยจังหวะนี้เข้าไปลงทุนในบริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (โนวา) โดยเข้าไปถือหุ้น 9% ใช้เงินลงทุนราว 520 ล้านบาท


สำนักข่าวรัชดา

ช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย มีหลายบริษัทปรับตัว ปรับแผนธุรกิจ ฉกฉวยจังหวะทำ M&A เทกโอเวอร์กิจการอื่น เพราะช่วงนี้มักจะได้ของถูก ราคาไม่แพง เฉกเช่นเดียวกับ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ที่ฉวยจังหวะนี้เข้าไปลงทุนในบริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (โนวา) โดยเข้าไปถือหุ้น 9% ใช้เงินลงทุนราว 520 ล้านบาท

โอเค…จุดเด่นของ DDD ครึ่งปียังมีกระแสเงินสดในมือเหลือกว่า 1,000 ล้านบาท ถ้าไม่ใช้ประโยชน์อะไรก็คงเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจ จึงเจียด 520 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสการลงทุน เป็นการใช้กระแสเงินสดสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย…

ขณะที่ ถ้าไปดูโปรไฟล์ของโนวาถือว่าไม่เลว…เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “Donutt” และ “Livnest” โดยเป็นแบรนด์ที่ขายดีใน Watson การันตีด้วยรางวัลผลิตภัณฑ์สินค้าขายดีใน Watson ประจำปี 2015

นอกจากนี้ยังได้รางวัลสินค้ายอดเยี่ยมในหมวดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามจาก 1577 Home shopping และได้รับรางวัลสุดยอดนักประดิษฐ์ด้านเศรษฐกิจในโครงการ 7 innovation 2015 จาก CP ALL

ส่วนโรงงานก็มีระบบการผลิตที่มีมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองมาตรฐานวิธีการผลิตที่ดี GMP (Good Manufacturing Practice) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และได้รับการรับรอง HALAL จากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

ด้านผลประกอบการก็ทำได้ดี ช่วง 2 ปีที่ผ่านมารายได้เติบโตต่อเนื่อง จากปี 2561 มีรายได้ 354 ล้านบาท ปี 2562 รายได้เพิ่มเป็น 483 ล้านบาท ส่วนกำไรปี 2561 อยู่ที่ 17 ล้านบาท ปี 2562 พุ่งไปแตะ 329 ล้านบาท

ดังนั้น แม้ DDD ถือหุ้นแค่ 9% แต่โนวาเป็นบริษัทที่เติบโตดี ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์เติบโตสูง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองกับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย

ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของ DDD อย่างมีนัยสำคัญ…

นอกเหนือจากก่อนหน้านี้ เข้าซื้อแบรนด์อ๊อกซี่เคียว เพื่อหวังขยายตลาดไปสู่เวชสำอาง และซื้อบริษัท คิวรอน จำกัด เพื่อขยายธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ในกลุ่มอุปกรณ์ดูแลผมและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เช่น อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม LESASHA และยาสีฟัน SPARKLE

นั่นแปลว่า จากเดิม DDD โตมาจากภายนอก (ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์) ก็เพิ่มเป็นภายใน (ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม) สวนทางกับคู่แข่งอีกรายที่เป็นการโตจากภายในมาสู่ภายนอก…ซึ่งจะทำให้ DDD มีความครบครันมากขึ้น…

ถือเป็นกลยุทธ์เติมเต็มเพื่อไปต่อนั่นเอง..!!

ขณะที่ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของ DDD หลังครึ่งปีแรกตุนกำไรไว้แล้ว 37 ล้านบาท จากรายได้รวม 562 ล้านบาท

นี่ถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าซะก่อน ก็น่าจะปิดสถานะด้วยตัวเลขกำไรได้ไม่ยาก หลังจากปีที่แล้วพลาดท่า พลิกขาดทุน 53 ล้านบาท

DDD จะได้กลับมาดูดีสมชื่ออีกครั้ง…

…อิ อิ อิ…

Back to top button