PTG กำไรแจ่ม

แม้ว่าการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลงมานั้นไม่มีผลกระทบต่อ PTG เท่าไรนัก เพราะที่ผ่านมาบริษัทไม่มีสต๊อกน้ำมันไว้เป็นระยะเวลานาน และการที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงนั้นกลับกายเป็นผลบากในแง่ของปริมาณการใช้น้ำมันของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา


–คุณค่าบริษัท–

 

แม้ว่าการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลงมานั้นไม่มีผลกระทบต่อ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เท่าไรนัก เพราะที่ผ่านมาบริษัทไม่มีสต๊อกน้ำมันไว้เป็นระยะเวลานาน และการที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงนั้นกลับกายเป็นผลบากในแง่ของปริมาณการใช้น้ำมันของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา

โดยดูได้จากรายได้และกำไรที่ออกมาอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14,203.82 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของช่วงปีก่อน 13,888.91 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 168.57 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของช่วงปีก่อน 135.55 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 28,591.71 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของช่วงปีก่อน 27,453.79 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 333.17 ล้านบาท หรือ 0.20 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของช่วงปีก่อน 237.78 ล้านบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินถือว่ายังดูดี แม้ว่าบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,231.10 ล้านบาท นำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 2,946.88 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นจำนวน 2,240.57 ล้านบาท และมีส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีเพิ่มเข้ามาจำนวน 40.16 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 0.76 เท่า ถือว่าสภาพคล่องทางการเงินเริ่มอ่อนแอ

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแม้ว่าบริษัทจะมีหนี้สินรวม 3,705.24 ล้านบาท นำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 3,682.64 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.01 เท่า ถือว่า ปัญหาหนี้สินของบริษัทยังอยู่ในระดับที่รับได้ อีกทั้งปัญหาส่วนนี้ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากบริษัทมีกำไรแข็งแกร่งอยู่

สิ่งที่น่าใจอีกอย่างคือผลการดำเนินงานของบริษัทยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง จากความมั่นใจต่อปริมาณการขายน้ำมันจะเติบโตตามเป้าที่ผู้บริหารตั้งไว้ประมาณ 2,300 ล้านลิตร หรือ 20-25% นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะขยายสถานีให้บริการน้ำมันครบ 1,200 สาขา เติบโตจากปีก่อนที่มีสาขาทั้งสิ้น 951 สาขา โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขา ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 อยู่ทั้งสิ้น 1,052 สาขาซึ่งแบ่งเป็นสถานีให้บริการที่บริษัทบริหารจัดการและเป็นเจ้าของเอง (COCO) จำนวน 840 สถานี และสถานีให้บริการที่เป็นแฟรนไชส์ (DODO) จำนวน 212 สถานี

PTG กลายเป็นหุ้นกลุ่มพลังงานที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ 302,000,100 หุ้น 18.08%

2.น.ส.จันทวรัจฉร์ จันทรศารทูล 183,372,300 หุ้น 10.98%

3.นายวีรศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช 144,975,800 หุ้น 8.68%

4.นายพิทักษ์ รัชกิจ ประการ 129,260,634 หุ้น 7.74%

5.นางเลิศลักษณ์ ณัฏฐสมบูรณ์ 77,849,140 หุ้น 4.66%

 

รายชื่อกรรมการ

1.พล.ต. อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ประธานกรรมการบริษัท

2.นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่

3.นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการ

4.นายพงษ์ศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช กรรมการ

5.นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ กรรมการ

Back to top button