ฝรั่งลุยต่อ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงข่าวดีล้นหลาม ก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายที่ทำให้ผู้คนเม้าท์แตกไม่หยุดหย่อน พร้อมกับเกิดปรากฏการณ์โลกสวยกันเป็นแถบนั้น “โมนิก้า” มองเป็นกระแสความเชื่อที่พุ่งเป้าไปยังฟันด์โฟลว์เป็นหลัก ส่งผลให้ภาพของการลงทุนไม่ได้ตั้งอยู่บนปัจจัยพื้นฐานแต่อย่างใด เดี๊ยนถึงพยายามชี้แง่มุมต่าง ๆ ที่สังคมชาวหุ้นกำลังให้ความสนใจนะจะบอกให้

*โดยเฉพาะประเด็นที่มีการถกเถียงอย่างหนักหน่วงว่า ด้วยระยะเวลาสัปดาห์ครึ่ง ดัชนีปรับตัวขึ้นถึง 150 จุด (1,200 จุด ขึ้นไปแตะ 1,350 จุด) เป็นการทะยานที่มากเกินไหม ? ถือเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่ทุกคนต้องเงี่ยหูฟังไว้บ้าง เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเล่นอยู่บนเกม QE ซึ่งจะมีการเข้ามาไล่ราคาหุ้นโดยไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน และจะทำให้ตลาดหุ้นไทยสวิงสวายอย่างหนักไงล่ะค่ะ

*วันนี้ถึงต้องเข้าใจเหตุผลตอนเปิดตลาดดัชนีขึ้นไปถึง 1,356.83 จุด แต่หลังจากนั้นทรุดฮวบลงไปอยู่ที่ 1,338.03 จุด ก่อนจะเด้งขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,345.34  จุด บวกไป 4.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17  แสนล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการลองพลังนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ มีหน้าตักที่จะรับหุ้นมากขนาดไหน ? และในระหว่างทางต่อจากนี้จะโดนทดสอบถี่ขึ้นอย่างแน่นอน..เชื่อน้องโมเถอะค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงมีการมองท่าทีฝรั่งจะกลับมาซื้อหุ้นไทยมากถึงสองแสนล้านจะเป็นจริงไหม ? (วานนี้ฝรั่งซื้อแค่ 7 พันล้านบาท และเฉพาะเดือน พ.ย. ซื้อไปทั้งสิ้น 2.30 หมื่นล้านบาทเอง) “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า หวังสูงเกินไปมั้ง ! เพราะเมื่อดูตามหน้าเสื่อจะเห็นปรากฏการณ์หลายอย่างยังไม่นิ่ง เดี๊ยนถึงมองการเข้ามาซื้อต่อจากนี้จะเป็นลักษณะทยอยเก็บมากกว่าไล่เก็บ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องไม่เป็นเหมือนกับที่วาดฝัน จึงไม่ควรทำตัวสุดจัดเกินไปพะยะค่ะ

*ข้อมูลข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะพูดถึงหุ้นตราใบโพธิ์ SCB ขึ้นมาเป็นลำดับแรก เพราะแค่มองในมุมของบุ๊กแวลูที่อยู่ในระดับ 118 บาท ก็ทำให้สถานการณ์ของแบงก์สีม่วงเป็นต่อหลายช่วงชก ผสานกับมองในมุมของพี/อีที่อยู่ในระดับ 7 เท่า ก็ทำให้เสน่ห์ของหุ้นจัดจ้านเหลือหลาย เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 79.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 พันล้านบาท น่าจะมีแก๊ปให้วิ่งอีกเยอะพอสมควรนะคะ

*ส่วนคนที่ชอบ “เคาะมัน เคาะเร็ว” คงต้องมองไปที่หุ้น SUPER ไว้เป็นตัวเลือกแรก เพราะในช่วง 3 เดือนเห็นเคาะกันในกรอบ 0.80-0.95 บาทเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 0.90 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการได้ลุ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จึงขอฝากหุ้นตัวนี้ไว้ในอ้อมอกบรรดาขาลุยสักนิดหนึ่ง เพราะแมงลือเม้าท์ให้แซ่ดว่า ยังมีสตอรี่ใหม่เตรียมออกมาฉายอีกเจ้าค่ะ

*สำหรับคนที่ “ไม่ชอบเสียว” แต่ยังมีใจให้กับหุ้นที่ “ช้าแต่ชัวร์” คงต้องเบนเข็มไปดูหุ้น RCL ไว้เป็นตัวเลือกหลักสำหรับการเคาะขวา เพราะข่าวที่ได้รับการยืนยันจากต่างประเทศยืนยันตรงกันว่า ค่าตู้คอนเทนเนอร์ขึ้น 3 เท่าตัวจากก่อนหน้านี้ และเรื่องนี้ก็มีผลโดยตรงกับกำไรเสียด้วย เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 9.05 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148 ล้านบาท ก็เป็นเหมือนที่เดี๊ยนเล่าให้ฟังตั้งแต่วันก่อน..จำได้ไหม ?

*ส่วนคนที่ชอบหุ้นคุณภาพ และมีกำไรเป็นตัวแบ็กอัพ “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปยังหุ้นสุดเลิฟ RBF เป็นคำตอบสุดท้าย และสาเหตุที่ชื่นชอบหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยังเหนียวแน่น แถมในอนาคตมีแผนที่จะใช้บริการเพิ่ม เดี๊ยนถึงไม่ยี่หระกับอาการทรุดหนักของหุ้น เพราะสุดท้ายก็เด้งกลับขึ้นมาที่เดิม จึงมองราคาปิดที่ 9.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 177 ล้านบาท น่าจะมีช็อตให้เคาะตามอีกหลายช่องพะยะค่ะ

*ปิดท้ายกันที่เรื่อง “เจ็บ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ” กันบ้างดีกว่า เพราะบรรดาขาเผือกรบเร้าให้ “โมนิก้า” เม้าท์ถึงหุ้น MORE ภายใต้การบัญชาเกมของ “เฮียม้อ” (เดิมก็คือก๊วนของอาจารย์เปรต AJP) หลังมีข่าวแว่วมาแต่ไกลว่า ยังเคลียร์ผลประโยชน์ตั้งแต่สมัยบิตคอยน์มีปัญหา 3 ฝ่ายไม่ลงตัว (รมต.แป้ง มีเอี่ยวด้วย) จึงเกิดความสงสัยทันทีว่า หุ้นขึ้นมาปิดที่ 0.82 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 232 ล้านบาท ใช้สตอรี่อะไร ? เดี๊ยนเลยขออธิบายให้เข้าใจว่า นี่เป็นเกมผลประโยชน์ แมงเม่าอย่ายุ่งดีกว่า..ไม่เชื่อลองถาม “เฮียฉั่ว” ดูก็ได้..อิอิอิ